• โดยตักผงมัทฉะใส่ลงกระชอนในปริมาณที่ต้องการ แล้วเคาะหรือร่อนให้ผงตกลงไปในภาชนะรองรับ หรือร่อนลงบนหน้าขนมหรือเครื่องดื่ม เพื่อตกแต่งให้สวยงาม น่ารับประทาน

การดูแลรักษา

• หลังใช้งานทุกครั้ง ควรล้างทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดคราบเกาะติด และยืดอายุการใช้งาน

วิธีการเก็บรักษา

• ล้างทำความสะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง หรือใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดคราบหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์
• ข้อควรระวัง หลีกเลี่ยงการใช้ฟองน้ำที่มีผิวสัมผัสหยาบในการขัด

• คุณสมบัติของถ้วยแก้วชงชา 2 ชั้น เมื่อมีการบรรจุของเหลวลงไปในแก้ว จะช่วยกระจายความร้อน/ความเย็น และรักษาระดับอุณหภูมิของเครื่องดื่มได้นานขึ้น โดยที่ผิวแก้วด้านนอกไม่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป ช่วยเพิ่มอรรถรสในการดื่มชาให้ดียิ่งขึ้น

การดูแลรักษา

• ล้างทำความสะอาดทันทีหลังการใช้งาน แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็คให้แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดคราบคำแนะนำ หากเกิดคราบชาหรือกาแฟ อาจทำความสะอาดด้วยการเทเบคกิ้งโซดาลงให้เต็มก้นแก้ว แล้วเติมน้ำร้อนตามลงไปให้พอท่วม ทิ้งไว้สักพัก แล้วใช้ฟองน้ำขัดจนคราบจางหายไป หากยังหลงเหลือคราบอยู่ให้ทำซ้ำ แล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาด

• เพื่อป้องกันผงชาจากการสัมผัสความชื้นและแสงแดด ทำให้ผงมัทฉะสามารถคงคุณภาพและยืดอายุการเก็บรักษาให้นานขึ้น

การดูแลรักษา

• หากบรรจุผงมัทฉะ ควรเก็บกระปุกในตู้เย็น จะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของผงชาได้ดียิ่งขึ้น
• ภายหลังการใช้งาน ควรล้างทำความสะอาด และใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดคราบ
• คำแนะนำ หากเกิดคราบที่ยากต่อการล้าง สามารถใช้เบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำอุ่นให้พอเป็นเนื้อครีม ทาทิ้งไว้ตรงบริเวณที่เกิดคราบ แล้วใช้ฟองน้ำขัดออก หลังจากนั้นให้ล้างทำความสะอาดอีกครั้ง

3.นำน้ำที่เกิดจากการอุ่นอุปกรณ์ไปเททิ้ง

4.เทกาแฟที่บดแล้วลงใน Cereafil

5.เทน้ำร้อนประมาณ 92 – 95 °C ลงบนกาแฟให้ทั่ว

6.หลังใช้งานสามารถนำอุปกรณ์วางพักไว้บนฐานรอง เพื่อป้องกันกาแฟไหลลงพื้นโต๊ะ

ใช้ได้กับระดับการบดทุกระดับ

ระดับการบดที่แนะนำ : บดหยาบ (ระดับน้ำตาลทราย)

การดูแลรักษา :

• หลังการใช้งานให้เท หรือใช้ช้อนค่อยๆตักผงกาแฟออก
• ล้างด้วยน้ำเปล่า และใช้แปรงขนอ่อนขัดเบาๆ
• เก็บในที่แห้ง และสะอาด

ข้อควรระวัง :

• อย่าใช้ผงซักฟอกหรือฟองน้ำ
• ห้ามใช้ในไมโครเวฟ
• โปรดระวังอย่าให้ตก,แตกหรือกระแทก

• วิธีการชงชา ใช้ฉะเซ็นตีผงมัทฉะเป็นรูปซิกแซกขึ้นลง หรือรูป w โดยใช้ข้อมือ และหลีกเลี่ยงการใช้แปรงชงชาพลาสติกกับถ้วยชงชาแบบดั้งเดิม
• หากใช้แปรงนี้กับน้ำร้อน (อุณหภูมิ 100℃) ส่วนปลายของแปรงอาจเกิดการม้วนหด สามารถแก้ไขได้ด้วยการนำไปใช้ในน้ำร้อนอุณหภูมิ 100℃ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ขนแปรงคืนตัวกลับมา
• หลีกเลี่ยงการใช้แปรงชงชาขณะอยู่ใกล้เปลวไฟ บริเวณที่มีความร้อนสูง และห้ามใช้กับไมโครเวฟ

การดูแลรักษา

• หลังการใช้งานทุกครั้ง ให้ทำการแยกตัวแปรงออกจากกัน ล้างแปรงด้วยน้ำให้สะอาด แล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกันเหมือนเดิม ก่อนที่จะผึ่งไว้บนที่วางแปรงเพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษารูปทรงของขนแปรง
• สามารถล้างกับเครื่องล้างจานได้ โดยทำการล้างทั้งตัวแปรงและด้ามจับของแปรง
• เมื่อขนแปรงเกิดการเสื่อมสภาพหรือชำรุด ไม่ควรใช้งานต่อ แต่ควรนำไปกำจัดทิ้งทันทีอย่างเหมาะสม

การดูแลรักษา

• หลังการใช้งานทุกครั้ง ให้ล้างกระบอกชงด้วยน้ำสะอาด แล้วผึ่ง/ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง ไม่ควรล้างด้วยน้ำร้อนหรือเครื่องล้างจาน
• ข้อควรระวัง ควรใช้น้ำอุณหภูมิห้องในการละลายผงมัทฉะ เพราะการใช้น้ำร้อนอาจทำให้พลาสติกเกิดการหดตัว และของเหลวอาจเกิดการรั่วซึมออกมาขณะใช้งาน และควรใส่ผงมัทฉะเข้าไปภายหลังจากการเติมน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ผงมัทฉะตกลงไปในร่องที่ก้นแก้ว ซึ่งอาจทำให้มัทฉะละลายได้ยากขึ้น พร้อมทั้งปิดฝาให้สนิทพอดี ไม่แน่นเกินไป เพื่อป้องกันการหก/ซึมของมัทฉะขณะชง

3.นำน้ำที่เกิดจากการอุ่นอุปกรณ์ไปเททิ้ง

4.เทกาแฟที่บดแล้วลงใน Fuji Cofil

5.เทน้ำร้อนประมาณ 92 – 95 °C ลงบนกาแฟให้ทั่ว

6.หลังใช้งานสามารถนำอุปกรณ์วางพักไว้บนฐานรอง เพื่อป้องกันกาแฟไหลลงพื้นโต๊ะ

ใช้ได้กับระดับการบดทุกระดับ

ระดับการบดที่แนะนำ : บดหยาบ (ระดับน้ำตาลทราย)

การดูแลรักษา :

• หลังการใช้งานให้เท หรือใช้ช้อนค่อยๆตักผงกาแฟออก
• ล้างด้วยน้ำเปล่า และใช้แปรงขนอ่อนขัดเบาๆ
• เก็บในที่แห้ง และสะอาด

ข้อควรระวัง :

• อย่าใช้ผงซักฟอกหรือฟองน้ำ
• ห้ามใช้ในไมโครเวฟ
• โปรดระวังอย่าให้ตก,แตกหรือกระแทก