
การดื่มชาเขียวเพียวๆไม่ผสมนม น้ำตาล เป็นการดื่มที่ได้ประโยชน์มากที่สุด แต่สำหรับบางคนการดื่มแบบเพียวๆ อาจจะรสชาติไม่ถูกปากนัก จึงใส่นมลงไปเพื่อเพิ่มความกลมกล่อมมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าการดื่มชาเขียวใส่นม จะไม่ได้ประโยชน์เลย เพียงแค่ได้ประโยชน์ที่น้อยลง( อ่านเพิ่มเติมได้ที่ shorturl.at/lpsFG ) แต่บางร้านก็ประหยัดต้นทุนไปอีกด้วยการเปลี่ยนมาใช้ครีมเทียมในการชงชาไปเลยเพื่อให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น เพราะครีมเทียมสะดวกในการใช้ และเป็นของแห้งทำให้เก็บรักษาไว้ได้นาน
ครีมเทียมโดยทั่วไปจะมีบัตเตอร์ไขมัน 18-30% ในขณะที่นมธรรมดามี 1-2% ครีมเทียมเป็นผลิตภัณฑ์เลียนแบบครีมจากน้ำนมโคที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ในบางคนที่ไม่มีเอนไซม์ย่อยน้ำตาลแล็กโทส เมื่อดื่มน้ำนมจึงมีอาการท้องอืดเฟ้อ การใช้ครีมเทียมแทนนมในการชงชาเลยเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ครีมเทียมทำเลียนแบบครีมแท้โดยมาก เกิดจากไขมันจากน้ำมันปาล์ม โปรตีนนมที่แยกออกจากน้ำนมโค น้ำตาลทรายและน้ำ กลับมาผสมรวมกัน แล้วจึงนำไปทำให้แห้งเป็นผงละเอียดส่วนประกอบของครีมเทียม ไขมันจากปาล์มเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด โดยทำให้ครีมเทียมมีสีขาวเมื่อกระจายตัวในน้ำ ให้ความข้น ความมัน ไม่มีคอเลสเตอรอลแต่มีกรดไขมันชนิดอิ่มตัวสูง
ในการเลือกครีมเทียมที่จะมาเติมเต็มชาแก้วโปรดของคุณ แนะนำให้พิจารณาจาก
- เข้ากับชาได้ดีใช่มั้ย
- รสชาติ อร่อยกลมกล่อมไม่เหม็น
เพราะ ครีมเทียมสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ ชนิดผงและชนิดเหลว ส่วนประกอบหลักของครีมเทียมชนิดผงจะได้มาจากการแยกส่วนประกอบมาจากน้ำนมดิบโดยตรง จึงทำให้ได้รสชาติของนมที่เข้มข้น กลมกล่อม และหอมหวานอย่างลงตัวเมื่อนำไปผสมกับชา
สำหรับครีมเทียมชนิดเหลวจะไม่ใช่ครีมเทียมในรูปแบบที่มาจากนมแท้ๆ แต่เป็นการผสมสารปรุงแต่งอาหารอย่าง “อิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier)” ลงในน้ำมันพืช ทำให้ได้ความหนืดและคุณลักษณะใกล้เคียงกับครีมจริง ๆ แทน และแน่นอนว่า ครีมเทียมชนิดเหลวที่ทำจากน้ำมันพืชเพียงอย่างเดียวนี้ ย่อมสัมผัสไม่ได้ถึงรสชาติที่เข้มข้นเท่ากับการใช้ครีมเทียมแบบที่ทำจากน้ำนมดิบจริงๆ จึงไม่เหมาะที่จะใช้ในกรชงชานัก เพราะจะทำให้เสียรสชาติความเข้มข้นของชาเขียว
สิ่งที่ควรระวังในการชงเมนูชาเขียวลาเต้ไม่ให้มีรสฝาด ที่บางคนคาดเดาว่ามาจากกระบวนการการผลิตครีมเทียมที่ไม่ดีนัก หรือเป็นเพราะใช้ไขมันไม่ได้คุณภาพมาทำเลยทำให้มีรสชาติไม่กลมกล่อม แต่จริงๆแล้วรสฝาดดังกล่าวเกิดได้ตั้งแต่ขั้นตอนการสกัดชา ควรใช้น้ำร้อนเดือดจัดกรองชาสลับไป-มา 4 ครั้ง เมื่อกรองชาเสร็จแล้ว ไม่ควรแช่ผงชาไว้ในน้ำ ให้รีบบีบน้ำชาออกจากน้ำ แต่ก็ควรบีบพอประมาณ ไม่ควรเค้น เมื่อกรองกากชาออกแล้ว ควรรีบใส่ครีมเทียม ในขณะน้ำยังร้อน เพื่อให้ครีมเทียมละลายเข้ากันดีนั่นเอง
ที่มา
https://www.znaturalfoods.com/whole-milk-powder
https://www.wifemamafoodie.com/homemade-oat-milk/
shorturl.at/opyY9
บทความจาก : Fuwafuwa