บทความทั้งหมด
รอบรู้มัทฉะ
เจาะลึกมาทำความรู้จัก ชาเก็นไมฉะ
04 ต.ค. 20

เก็นไมฉะ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “ชาข้าวคั่ว” ยังมีอีกชื่อเก๋ๆ ว่า Brown Rice Tea หรือ Popcorn Tea เพราะกลิ่นหอมที่ชวนให้นึกถึงป๊อปคอร์น เกิดจากการคั่วข้าวและใบชาเขียวของญี่ปุ่น (Bancha หรือ Sencha ก็ได้) ผสมกันในอัตราส่วน 1:1 แม้จะเป็นชาลูกผสม แต่ประโยชน์ของเก็นไมฉะก็ไม่แพ้ชาเขียวเลยค่ะ มีรสชาติและกลิ่นหอมละมุนที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และด้วยปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ ชา Bancha หรือ ชา Sencha เก็นไมฉะจึงเหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้สูงอายุอีกด้วย

 

genmaicha

 

หากพูดถึงชา Bancha เป็นชาเขียวที่มาจากการเก็บเกี่ยวครั้งที่สองหรือสาม ทำให้มีรสชาติสดชื่นและแทบไม่มีความขม จึงเหมาะสำหรับดื่มในชีวิตประจำวัน ด้วยปริมาณคาเฟอีนที่ไม่มากเกินไป ทำให้เด็กและผู้สูงอายุดื่มได้อย่างเพลิดเพลิน ส่วนชา Sencha เป็นชาเขียวญี่ปุ่นที่ปลูกโดยได้รับแสงแดดเต็มที่หลังจากยอดอ่อนเริ่มผลิออก มีรสชาติขมเล็กน้อยและกลิ่นหอมสดชื่น เป็นที่นิยมของคนทุกวัยในญี่ปุ่น และครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 80% นอกจากนี้ Sencha ยังมีคาเฟอีนเพียง 1 ใน 30 เมื่อเทียบกับกาแฟ 1 แก้ว ทั้งชา Bancha และ ชา Sencha จึงเป็นส่วนผสมหลักของชาเก็นไมฉะที่ช่วยส่งเสริมให้ชาเก็นไมฉะให้ประโยชน์ต่อสุขภาพที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ชาตัวอื่นๆ ส่วนข้าวกล้องก็ขึ้นแท่นเป็นข้าวที่หอมที่สุดเมื่อนำมาคั่วเพื่อทำเป้นชาเก็นไมฉะนั่นเอง

genmaicha

 

สารอาหารหลักในชาเก็นไมฉะ ได้แก่ คาเทชิน, ธีอะนิน, วิตามินซี, วิตามินบีรวม, และวิตามินอี ซึ่งช่วยต่อต้านริ้วรอย คาเทชินมีส่วนในการป้องกันการดูดซึมไขมันและน้ำตาลส่วนเกิน พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นหวัด อาหารเป็นพิษ และกลิ่นปาก ชาเก็นไมฉะยังมีวิตามิน แร่ธาตุ และเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยป้องกันอาการท้องผูกและเพิ่มการเผาผลาญ อีกทั้งสาร Gamma-oryzanol ในข้าวคั่วช่วยลดความเสี่ยงต่อเส้นเลือดอุดตัน เบาหวาน และโรคอ้วน วิตามินบีคอมเพล็กซ์ยังช่วยลดความเหนื่อยล้าและความเครียด

 

ชาเก็นไมฉะสามารถดื่มได้ทุกเวลา แต่หากต้องการลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดคือก่อนมื้ออาหาร การดื่มระหว่างมื้ออาหารก็มีประโยชน์ในการควบคุมคอเลสเตอรอลและช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี ชาเก็นไมฉะจะยิ่งอร่อยสดชื่นเมื่อทานคู่กับอาหารที่มีความมัน

 

 

genmaicha

 

นอกจากนี้ การดื่มชาแบบอุ่นระหว่างหรือหลังมื้ออาหารยังช่วยในการย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ การชงชาเก็นไมฉะด้วยน้ำต้ม จะทำให้ได้กลิ่นหอมและช่วยให้คาเทชินออกฤทธิ์ดีที่สุด นอกจากนี้ตอนต้มชาเก็นไมฉะ ควรใช้เวลาสั้นที่สุดในการชงเพื่อป้องกันไม่ให้สารแทนนินออกมาซึ่งจะทำให้มีรสขมเกินไป

 

 

genmaicha

 

หากใครที่หลงใหลชาเก็นไมฉะ Matchazuki ก็อยากแนะนำให้เอาไปลองทำขนมดู ก็ได้รสชาติและสัมผัสที่อร่อยไม่แพ้ชาประเภทอื่นๆ ที่สำคัญคือ การใช้เก็นไมฉะมาทำขนมยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก หากร้านไหนต้องการสร้างจุดต่าง อาจจะเริ่มจากการนำไปทำคุ้กกี้ หรือ Topping บน Chocolate Bar ดูก่อนก็น่าสนใจทีเดียว

ชอบบทความนี้ ?
โปรดแชร์ให้เพื่อนๆ