มาศึกษาต้นกำเนิด ผงชาเขียวมัทฉะ

ว่ากันว่า ชาเขียวได้ถูกค้นพบโดยจักรพรรดิเสินหนงซึ่งเป็นบัณฑิตและนักสมุนไพรผู้รักความสะอาดเป็นอย่างมาก ดื่มเฉพาะน้ำต้มสุกเท่านั้น วันหนึ่งขณะที่เสินหนงกำลังพักผ่อนอยู่ใต้ต้นชาในป่า และกำลังต้มน้ำอยู่นั้น ปรากฏว่าลมได้โบกกิ่งไม้ เป็นเหตุให้ใบชาร่วงหล่นลงในน้ำซึ่งใกล้เดือดพอดี เมื่อเขาลองดื่มก็เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก ชาเขียวถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ชาวบ้านก็เริ่มหันมาปลูกชาและพัฒนาต่อกันมาเรื่อยๆ มีทั้งการเติมเครื่องเทศน์ หรือดอกไม้ลงไป เพื่อให้มีกลิ่นและรสชาติที่แตกต่างมากยิ่งขึ้น ซึ่งชาที่ปลูกในจีนทั้งหมดเป็นชาเขียว กระบวนการผลิตชาจะเกิดจากการรวมใบชา นำมานึ่ง และอบแห้ง ซึ่งจะเก็บได้ไม่ดีนัก สูญเสียกลิ่นได้ง่าย และรสชาติไม่ดี ในช่วงศตวรรษที่ 17 มีการค้าขายกับชาวยุโรปการผลิตเพื่อจะรักษาคุณภาพชาให้นานขึ้น โดยการหมักแล้วก็จะนำไปอบ ซึ่งก็เป็นที่มาของชาอูหลง และชาดำ ในประเทศจีน

ไร่ชา ไร่ชา

การเข้ามาของชาในประเทศญี่ปุ่นนั้น เริ่มราวต้นสมัยเฮอัน ในสมัยนั้นจีนและญี่ปุ่นเริ่มมีการติดต่อทางด้านศาสนาพุทธและวัฒนธรรมกัน บ้างแล้ว นักบวชญี่ปุ่นได้เดินทางไปเป็นทูตเรียนรู้เรื่องต่างๆ จากประเทศจีนรวมทั้งการศึกษาตัวยาสมุนไพรจากจีนอีกด้วย ชาจีนจึงเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกๆ โดยพระสงฆ์นั่นเอง เริ่มจากนักบวชจากจังหวัดไอจิ ได้นำชาอัดแข็ง (ต้องฝนกับหินก่อนแล้วจึงใส่น้ำร้อนถึงจะดื่มได้) และเมล็ดชาจำนวนไม่มากเข้ามาที่ญี่ปุ่นก่อน เมื่อจักรพรรดิได้เข้ามาเยี่ยมพระที่วัด พระ จึงชงชาใส่ถ้วยนำมาถวาย เมื่อองค์จักรพรรดิได้ดื่มชาก็เกิดความประทับใจในรสชาติ จึงสั่งให้นำเมล็ดชาไปปลูกที่สวนสมุนไพรภายในบริเวณราชวัง ชาได้แพร่หลายไปในแถบภูมิภาคคิงคิ (เกียวโต) แต่ความนิยมยังคงมีอยู่แต่ในเฉพาะกลุ่มชนชั้นสูงเท่านั้น

Matcha

ต่อมาในช่วงตอนต้นสมัยคามาคุระ (Kamakura) นักบวชในพุทธศาสนาเซน ได้นำเมล็ดชามาจากจีนเป็นจำนวนมากพร้อมกับกรรมวิธีการผลิตชากลับมาด้วย วิธีการผลิตดังกล่าวนั่นก็คือ การนำใบชามาบดโดยครกหินที่ทำให้เกิดความร้อนน้อยที่สุด เพื่อรักษารสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ไว้ ออกมาเป็นผงละเอียดเหมือนแป้ง หรือที่เราเรียกว่า ผงมัทฉะนั่นเอง ซึ่งการทำผงมัทฉะใช้เวลานานกว่าจะได้ผงชาออกมาจำนวนหนึ่ง ราคาจึงสูงกว่าชาเขียวชนิดอื่นๆ และมีวิธีการชงที่ค่อนข้างพิเศษที่ต้องใช้แปรงชงชาในการตีตาให้ละลายก่อน

ในสมัยนั้นมีการส่งเสริมการเพาะปลูกชาเพื่อใช้เป็นสมุนไพรให้แพร่หลายมากขึ้น และมีประโยคหนึ่งในหนังสือที่ท่านได้เขียนไว้ว่า ชาเป็นพื้นฐานทางจิตใจและเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ดีที่สุด ทำให้ชีวิตถูกเติมเต็มและมีความสมบูรณ์มากขึ้น”จากนั้นก็เริ่มมีการค้นคว้าสรรพคุณของชา ที่ช่วยดับกระหายได้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น และช่วยล้างพิษด้วยการขับสารพิษออกทางปัสสาวะอีกด้วย

สมัยที่โชกุน มินาโมโตะ ซาเนะโมโตะ ทนทุกข์ทรมานจากการดื่มสุราอย่างหนัก ได้ลองดื่มชาและอาการของโชกุนก็หายไปในที่สุด ต่อมา เหล่านักบวชจึงเริ่มมีการเดินทางเพื่อออกเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับชาไปทั่วญี่ปุ่น จากนั้นชาจึงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งพิธีกรรมบางอย่างและใช้เพื่อการรักษาโรค

Matcha History Matcha History

ในสมัยมุโระมาจิ เริ่มมีพิธีชงชาในแบบฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่นแล้ว เรียกว่า Chanoyu และในยุคนี้การชงชาเริ่มมีการผสมผสานทางด้านความคิด จิตวิญญาณ และการสร้างสรรค์ศิลปะในแบบธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว เริ่มมีการลงรายละเอียดในภาชนะที่ใช้ในพิธีชงชา รวมไปถึงการเสิร์ฟชาเขียวในร้านอาหารอีกด้วย

Matcha History

การดื่มชาด้วยความเรียบง่ายและมีสมาธิในแบบของเซนจะช่วยให้จิตใจสามารถพัฒนา ขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ นักบวชจึงออกแบบห้องพิธีชงชาขนาดเล็ก เพื่อใช้สนับสนุนการชงชาตามอุดมคติของนิกายเซน หลังจากนั้นจึงเริ้มมีพิธีชงชาตามแบบฉบับญี่ปุ่นเกิดขึ้นอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ แม้ว่าในสมัยยุคเอโดะ พิธีชงชาและการดื่มชาเริ่มมีการขยายวงกว้างลงมาถึงชนชั้นล่างมากขึ้น แต่กระนั้นเมื่อถึงการเก็บเกี่ยวชาที่ดีที่สุดในช่วงแรกของปีก็ต้องส่งมอบ ให้กับชนชั้นซามูไรก่อน ส่วนชาที่ชาวบ้านดื่มกันจะเป็นชาที่เก็บเกี่ยวในครั้งต่อมาคุณภาพก็จะด้อยลงมานั่นเอง จนช่วงหลังๆได้มีการเผยแพร่และลดการแบ่งชนชั้นตามกาลเวลา ประเพณีชงชาจึงยังคงเป็นที่แพร่หลายสืบทอดต่อกันมาถึงทุกวันนี้ เพราะประเพณีชงชานอกจากจะช่วยฝึกสมาธิแล้ว ยังช่วยให้จิตใจสงบ ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น โรงเรียนในญี่ปุ่นบางแห่งมีการสอนประเพณีชงชาให้เด็กญี่ปุ่นด้วย

ที่มา

http://fineartamerica.com/featured/oolong-tea-bud-jung-pang-wu.html

https://moyamatcha.com/en/moya-matcha/history-of-matcha/#

http://d.hatena.ne.jp/keibunsha2/20110508

https://www.pinterest.com/pin/339951471845392656/

https://www.flickr.com/photos/aligatorpics/6240407574/in/photostream/

http://japan-web-magazine.com/japanese-tea/japan-japanese-tea-ceremony0.html

https://traditional-japan.tumblr.com/image/153431720372

shorturl.at/brstQ

บทความจาก : Fuwafuwa

นำผงมัทฉะมาประกอบอาหารอย่าง โซบะชาเขียว

ใครที่ชื่นชอบชาเขียวเป็นชีวิตจิตใจ ยิ่งได้ชาเขียวพรี่เมี่ยมที่มีทั้งกลิ่น และรสชาติแบบออริจินัลใช้ทำเครื่องดื่มหรือขนมแล้ว เมนูนั้นจะยิ่งพิเศษ ชวนทานมากยิ่งขึ้น แต่หลายคนก็คงสงสัยเหมือนกันว่า ผงมัทฉะ เอาไปทำอย่างอื่นนอกจากเครื่องดื่มและขนมได้มั้ย????

ถ้านึกดีๆแล้ว ที่ญี่ปุ่น เรามักจะเห็นหลายๆร้านมีการนำผงมัทฉะมาประกอบอาหาร แต่เราอาจะลืมคิดไปว่าที่ไทย เมนูของคาวจากชาเขียว มีขายอยู่น้อยมาก ทั้งๆที่บางร้านเองก็ใช้ผงมัทฉะนำเข้าจากญี่ปุ่นเหมือนกัน การนำผงมัทฉะนั้นมาประกอบอาหารบ้างจึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน แถมยังได้สัมผัสชาเขียวดั้งเดิมอีก ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น ก็ทำกินเองได้ที่บ้าน แถมยังนำมาใส่ในเมนูของคาวที่ร้านคาเฟ่ได้อีก “เส้นโซบะชาเขียวโฮมเมด” ที่ไม่ต้องผ่านกรรมวิธีทางโรงงานให้ยุ่งยาก

ส่วนผสม :

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม

แป้งบัควีต 100 กรัม

น้ำ 200 กรัม

ผงมัทฉะ 1 ช้อนชา

เริ่มจากการผสมแป้งบัควีตกับแป้งสาลีอเนกประสงค์เข้าด้วยกัน ร่อนแป้งลงในอ่างผสม ใส่ผงมัทฉะ แล้วค่อยๆ ใส่น้ำทีละน้อยพร้อมใช้มือคนแป้งไปเรื่อยๆ นวดแป้งให้ค่อยๆ ดูดน้ำ นวดและซุยแป้งจนรู้สึกว่ามีเนื้อสัมผัสคล้ายเม็ดทราย

ใส่น้ำให้เหลือประมาณ ¼ ของน้ำทั้งหมด จากนั้นใส่น้ำที่เหลือลงไปพร้อมนวดให้แป้งจับตัวเป็นก้อน ใช้ฝ่ามือนวดแป้งตรงกลางแล้วพับริมแป้งขึ้นมาทับกัน นวดแป้งแบบนี้วนไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งจะนุ่ม (กดแล้วเป็นรอยบุ๋ม) จากนั้นปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลม

โรยแป้งนวลบนไม้กระดานเล็กน้อย ย้ายก้อนแป้งของเรามาวางไว้ ใช้ฝ่ามือกดก้อนแป้งให้ขยายออก จากนั้นใช้ไม้คลึงรีดแป้งให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมจัตุรัสบางประมาณ 0.2 มิลลิเมตร โรยแป้งนวลให้ทั่ว พับแป้งมาประกบกัน จากนั้นใช้มีดหั่นเป็นเส้นเล็กๆ คลุกเส้นด้วยแป้งนวลให้ทั่วอีกครั้ง ห่อด้วยกระดาษทิชชู ใส่ในภาชนะปิดสนิท หรือจะใส่ถุงพลาสติกแล้วรีดเอาอากาศออกให้หมดก็ได้ เก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้ประมาณ 1-2 วัน

การลวกเส้นให้ตั้งหม้อน้ำบนไฟกลางจนเดือดจัด ใส่เส้นโซบะที่เราบรรจงหั่นลงต้มประมาณ 1 นาที ตักขึ้นแช่ในอ่างน้ำเย็น 20 วินาที ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ โซบะต้มเสร็จใหม่ๆ ต้องกินทันทีอย่าปล่อยไว้นาน เพราะเส้นจะดูดน้ำเข้าไปทำให้เส้นอืด เละ ไม่อร่อยนั่นเอง

…………………..พอเราได้วิธีทำเส้นโซบะชาเขียวแล้ว มาดูกันว่าเส้นโซบะชาเขียว เอาไปทำอาหารเมนูอะไรได้อีกบ้าง

เริ่มจาก โซบะชาเขียวเย็น ที่คนญี่ปุ่นมักทานคู่กับ วาซาบิ ซอสสียุสำหรับทานกับโซบะ ประมาณ 50 ml. สาหร่ายแผ่นหั่นฝอย หอมญี่ปุ่นซอย โดยบางคนก็ทานคู่กับกุ้งเทมปุระ หรือ ผงเทมปุระทอดกรอบ นิยมทานกันในหน้าร้อน เพื่อเพิ่มความสดชื่น คลายร้อนนั่นเอง

matcha soba

นอกจากโซบะเย็นแล้ว มัทฉะโซบะ ยังสามารถนำไปทำได้อีกหลายเมนูเลยอย่างเช่น

Ginger Miso Soup With Green Tea Soba Noodles

Ginger Miso Soup With Green Tea Soba Noodles

Let’s Cook : ขิงบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำเปล่า 6 ถ้วย + น้ำมะขาม ¼ ถ้วย เทรวมกันลงหม้อ ต้มไฟอ่อนประมาณ 10 นาที แล้วถึงเติม มิโสะ ¼ ถ้วย ลงไป ต้มต่ออีกประมาณ 3 นาที ไม่ต้องให้เดือดเกินไป เพราะ เวลาเสิร์ฟลูกค้าจะได้ซดน้ำได้ ไม่ลวกปาก

Serve ! ในชามเสิร์ฟจะมีโซบะมัทฉะ ไข่ต้ม 1 ฟอง แบบยังไม่ต้องสุกมาก เพราะไข่จะแห้งเกินไป และเห็ดหอม & บล็อคโคลี่ ย่างปริมาณตามชอบ ตกแต่งเพิ่มเติมด้วย โต้วเหมี่ยว และหอมญี่ปุ่นซอย ปริมาณตามชอบ โรยด้วยงาดำเล็กน้อยด้านบน

มาต่อกันที่อีกเมนูอย่าง

Green Tea Sesame Soba Noodles With Stir Fried Tofu

Let’s Cook : วอร์มเตาอบที่ 180c หั่นเต้าหู้เป็นก้อนสี่เหลี่ยม ขนาดประมาณ 1.5 ซม วางบนแผ่นรองอบ เข้าเต้าอบ 15 นาที แล้วลวกเส้นโซบะชาเขียวพักไว้ ผัดน้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ + ขิงบด 2 ช้อนชา + น้ำส้มสายชู ½ ช้อนชา ผัดที่ไฟกลางให้หอม แล้วเอาเต้าหู้ที่อบเสร็จแล้วมาใส่ในกระทะ ใส่โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ +  วาซาบิ ½ ช้อนโต๊ะ + มิโสะ 2 ช้อนชา ผัดจนเข้ากัน ปิดไฟ

Serve ! นำเต้าหู้ที่ผัดเสร็จแล้วมาใส่ในชามที่มีเส้นมัทฉะโซบะที่ลวกรอไว้แล้ว โรยหน้าตกแต่งด้วยงาขาวอีกที เป็นอันเรียบร้อย

Green Tea Sesame Soba Noodles With Stir Fried Tofu

แต่ถ้าใครอยากสลับเป็ฯใช้เส้นโซบะธรรมดา แต่ทานคู่กับซอสชาเขียว ลองใช้เป็นสูตรนี้แทน

Matcha Soba With Spicy Tofu Nuggets

Matcha Soba With Spicy Tofu Nuggets

Let’s Cook : เริ่มจากใส่น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ เปิดไฟกลาง ใส่หอมใหญ่สับละเอียดปริมาณตามชอบ และกระเทียมสับ 3 กลีบ ผัดจนหอม แล้วเอาไปเทใส่เครื่องปั่น เติมน้ำ 1 ถ้วย +เมเปิ้ลไซรับ 2 ช้อนโต๊ะ + เกลือ 1½ ช้อนชา + น้ำมะนาว 1 ช้อนชา+ ผงมัทฉะ 1 ช้อนชา + เม็ดมะม่วงหิมพานต์ดิบ ½ ถ้วย ปั่นให้เข้ากัน

นำเต้าหู้ หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมไทอดในน้ำมันงาให้หอม ข้างนอกกรอบเล็กน้อย

Serve ! นำซอสครีมชาเขียว ไปคลุกกับเส้นโซบะที่ลวกไว้แล้วและเต้าหู้ทอดโรยหน้าด้วยหอมญี่ปุ่นซอย และงาขาวเล็กน้อย เป็นอันเรียบร้ออยอีกเมนูนึง ……อิตาดาคิมัส ทานแล้วนะคะ 🙂

ที่มา

https://foodie.sysco.com/recipes/matcha-soba-with-spicy-tofu-nuggets/

https://www.japancentre.com/en/recipes/1265-cold-green-tea-soba-noodles

shorturl.at/uIRX7

shorturl.at/mnCU2

shorturl.at/bqsxX

บทความจาก : Fuwafuwa