เพิ่มยอดขายร้านชาจากลูกค้าที่มาคนเดียว

4 เทคนิคนี้เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายโดยที่ลูกค้าไม่รู้สึกอึดอัดใจกับการมาทานชาคนเดียวในร้าน อาจจะด้วยเหตุผลที่ต้องการความสงบจึงเลือกมาร้านชาคนเดียว อาจจะด้วยสภาพสังคมที่วุ่นวายทำให้มีคนบางกลุ่มต้องความสงบในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือเป็นเพราะโสด หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่การที่ลูกค้าเดินคนเดียวเข้าไปในร้าน อาจจะสร้างความหนักใจให้บางร้าน เพราะคงคิดว่าคงได้ยอดซื้อไม่เท่าไหร่ การที่จะเพิ่มยอดขายจากบิลของลูกค้ากลุ่มนี้ได้นั้นจริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องยาก เริ่มจากแนะนำให้ลองใช้เทคนิค 4 ข้อดังนี้

1. แนะนำเมนูของว่างและของหวานทานคู่เครื่องดื่มชาที่เป็นเมนูหลักของที่ร้าน โดยอาศัยช่วงที่รับออร์เดอร์ เทรนด์ให้พนักงานเสนอเมนูของว่าง ขนม ให้ลูกค้ารับประทานเล่นระหว่างรอเครื่องดื่ม หรืออาหารที่ต้องใช้เวลานานในการทำ โดยเมนูที่ควรแนะนำ ควรเป็นเมนูที่ช่วยเสริมให้รสชาติเครื่องดื่มอร่อยยิ่งขึ้น เช่น การเสนอขนมไดฟุกุ ขนมที่ไม่ต้องใช้เวลาในการปรุง แค่หยิบเสิร์ฟได้เลย ประหยัดเวลารอ ให้ทานคู่กับชาเขียวร้อน เป็นต้น หรือลองสังเกตพฤติกรรมลูกค้า ตอนที่ลูกค้าใกล้รับประทานอาหารเสร็จ ให้เข้าไปพร้อมเสนอเมนูของหวานและเครื่องดื่มตบท้าย ก็เป็นวิธีง่ายๆที่ช่วยเพิ่มยอดขายต่อบิลได้โดยเฉพาะสาวๆ

Matcha Order

2. จัดเซ็ตเมนูสุดคุ้มควบเมนูคาวหวานและเครื่องดื่ม เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่ทำให้ได้ยอดซื้อต่อบิลมากขึ้นจากลูกค้าที่มาคนเดียว ใช้กลยุทธ์นี้ได้ทุกเพศทุกวัย เพียงแค่จับเซ็ตเมนูที่ได้ครอบคลุมทุกอย่าง หรือใช้แค่การเพิ่มเงิน 10-50 บาทแล้วได้อีกเมนูไปทานด้วย จะทำให้ลูกค้ารู้สึกครบ จบ ประหยัดได้ในชุดเดียว การจัดเซ็ตเมนูจึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า และยินดีจ่ายในราคาที่สูงขึ้นโดยไม่รู้สึกอึดอัดใจ เช่น แทนที่คุณจะนำเสนอเมนูเดี่ยวๆ เช่น โซบะชาเขียวเย็น ก็เพิ่มการจัดเซ็ตสุดคุ้ม เสิร์ฟคู่โยคังชาเขียวถั่วแดง และชาร้อนๆสักแก้วพร้อมเครื่องเคียงที่ไว้ทานคู่กับโซบะอีกเล็กน้อย รับรองว่าไม่ว่าใครเห็นก็ต้องรู้สึกว่าคุ้ม หรือลองศึกษาวิธีว่าทำยังไงให้ลูกค้ารู้สึกว่าชาที่ร้านคุ้มค่าสมราคาเพิ่มเติมเป็นไอเดีย ก็ช่วยได้ทีเดียว

Matcha Order

3. ปรับปริมาณให้น้อยลงเพื่อให้สั่งได้หลากหลาย เพราะการจัดเซ็ตสุดคุ้ม อาจจะเป็นปริมาณที่ดูคุ้มจริงแต่เยอะไปสำหรับลูกค้าบางคน โดยเฉพาะสาวๆที่กลัวอ้วนหากทานเยอะไป ลูกค้าจึงเลือกที่จะสั่งอาหารจานเดียวแทน ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะพยายามเสนอขาย หรือทำเมนูอร่อยเด็ดขนาดไหน เขาก็สั่งแค่จานเดียว ทางแก้ง่ายๆ คือ ปรับไซส์ของเมนูให้น้อยลง ทำเมนูเฉพาะ size s เช่น จากขนมเค้กชิ้นโต อาจจะทำขนาดมินิลง ระบุว่าเป็นไซส์ S ปรับปริมาณน้อย แล้วมาจับชุดเป็นเซ็ตสุดคุ้มเฉพาะคน size s นั่นเอง เพราะหากขายแต่เมนูเดี่ยวๆสำหรับ size s อาจจะทำให้ลูกค้าบางคนรู้สึกว่าน้อยเกินไปก็เป็นได้

Matcha Order Matcha Order

4. มีสินค้า Grab & Go มากขึ้นตั้งบริเวณหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าที่มาคนเดียวหยิบซื้อได้โดยไม่เคอะเขิน ยิ่งมีสินค้าที่ราคาไม่แพงมาก ดูแล้วแพคเกจสวยน่าทาน หรืออาจจะมีตัวชิมวางเล็กน้อย ยิ่งง่ายต่อการเพิ่มยอดซื้อต่อบิลได้ แต่ถ้าร้านไหนมีพื้นที่เพียงพอ อาจจะจัดชั้น Display เป็นมุมให้ลูกค้าาแวะซื้อก่อนกลับ ก็ช่วยเพิ่มยอดต่อบิลได้ไม่มากก็น้อย

Matcha Order Matcha Order

ข้อควรระวังอย่างมาก ลูกค้าที่มาคนเดียวบางคน อาจจะต้องการความสงบในร้าน และไม่ต้องการให้พนักงานมาเชียร์ขายสินค้ามากนัก โดยเฉพาะคนที่มร้านเครื่องดื่มคนเดียว เป็นไปได้ว่าอาจจะต้องการสมาธิ ในการคิดงานหรือ อ่านหนังสือสักเล่มพร้อมเครื่องดื่มดีๆ ดังนั้นการสังเกตพฤติกรรมลูกค้าจึงสำคัญอย่างยิ่งกับการให้บริการลูกค้าทุกกลุ่ม

ที่มา

https://www.facebook.com/paperandtea/photos/2223036527737529/

บทความจาก : Fuwafuwa

Touch point ลูกค้าร้านชา ด้วยการออก Limited Collection

การพัฒนาหรือปรับปรุงให้ลูกค้ามีความพึงพอใจในสินค้าหรือบริการ เป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกร้านต้องดูแลลูกค้าไปตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่ก่อนการขาย ระหว่างการขาย รวมไปถึงหลังการขาย เพราะการให้ความสำคัญกับ Customer Touchpoint จะทำให้คุณมองเห็นแนวทางในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ได้ครบทุกจุดเพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้า ซึ่ง Customer Touchpoint จริงๆแล้วเริ่มตั้งแต่ลูกค้าค้นหาร้านชาผ่านออนไลน์ โฆษณา การเข้ามาที่ร้าน และจนจบการขาย ซึ่งการที่เราจะTouch Point ที่ดีที่สุดเป็นการที่เราทำให้ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์กับการเป็นส่วนหนึงของร้านเราทุกที่-ทุกเวลาไม่จำกัดแค่ที่หน้าร้านได้นั้น  นั่นคือ การออก Merchandise Limited Collection สินค้าแบรนด์ของร้านตัวเองนั่นเอง ที่ช่วยค่อยๆแทรกซึมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคนี้ ในทุกโอกาส ทุกโมเมนต์ของการบริโภค ไม่ว่าจะในร้าน – นอกร้าน นั่นเอง เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจของร้านเครื่องดื่มปกติในแขนงอื่นๆโดยไม่ต้องรอแต่ลูกค้าที่เดินเข้ามาใช้บริการที่ร้านอย่างเดียว โดยสินค้า Limited Collection ถ้ายกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดที่สุด คงหนีไม่พ้น “Starbucks” ที่ไม่ว่าจะเทศกาลไหนๆก็สามารถออกสินค้ามาดึงความสนใจได้ตลอด

Merchandise Limited Collection Merchandise Limited Collection

จะสังเกตได้ว่าใครที่เป็นลูกค้า Starbucks ก็จะมีทั้งแก้วเครื่องดื่มร้อน และแก้วเครื่องดื่มเย็น ที่พกติดตัวไปไหนมาไหนด้วย และแก้วสำหรับใช้ที่บ้านโดยเฉพาะ ทำให้แบรนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน และแทบจะอยู่ในทุกโมเมนต์ของกิจกรรมประจำวัน ตั้งแต่เช้า – เดินทางไปทำงาน/ไปเรียน ไปจนถึงกลับบ้านการออกคอลเลคชั่นใหม่อย่างต่อเนื่องของ starbucks นี่เองที่ทำให้สร้างสีสันให้เหล่าลูกค้าได้รู้สึกอยากมีส่วนร่วมกับเทศกาลนั้นๆ

อย่างไรก็ตาม Limited Collection ไม่ได้จำกัดแค่แก้ว ยังสามารถครีเอทลายบนเสื้อ หรือสมุดอื่นๆได้อีกมากมาย ซึ่งสินค้านี่เองยังเป็นตัวสะท้อนวิสัยทัศน์ของร้านได้อีก อย่างร้านชาที่ควรออกสินค้า Limited Collection นี้เพื่อสะท้อนถึงการสร้างพฤติกรรมลูกค้าให้หันมาใช้ “แก้วส่วนตัว” มาซื้อเครื่องดื่มที่ร้านเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และยังนำไปต่อยอดทำโปรโมชั่นที่ร้านได้อีกด้วย

Limited Collection Limited Collection

ส่วนลวดลายที่นำมาใช้กับสินค้า Limited Collection นี้ สามารถทำได้ง่ายๆตั้งแต่ การใช้โลโก้เลย หรือออกกลุ่มกราฟฟิคขึ้นมาอีกชุดเพื่อใช้กับสินค้านี้โดยเฉพาะ เพราะสินค้า Limited Collection นี้เป็นเหมือน“Silent Salesman” ที่ทรงพลัง ทั้งในการสร้าง Brand Visibility จากการที่คนถือแก้วไปมา หรือตั้งอยู่บนโต๊ะ ทำให้แก้วเป็นสื่อ หรือ Touch Point หนึ่งที่ปะทะสายตาของผู้ที่พบเห็นได้อีกด้วย

Limited Collection

ถึงแม้ Core Business ของร้านชา คือ เครื่องดื่มและอาหาร แต่ Merchandise เป็นอีกขาหนึ่งของการสร้างรายได้ และช่วยสร้าง Engagement ระหว่างแบรนด์ กับลูกค้า และเป็นอีก Touch Point การสื่อสารแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ที่ไม่ว่าใครถือแก้ว หรือใช้สิ่งของต่างๆ ของ Starbucks ใครเห็นแล้วย่อมเห็นโลโก้ และชื่อแบรนด์ที่จดจำได้ ขณะเดียวกันทำให้แบรนด์อยู่ในบทสนทนาของลูกค้า ยิ่งคอลเลคชั่น Limited Edition วางจำหน่ายเฉพาะช่วงเวลาหนึ่งๆ เพื่อให้แฟนคลับได้สะสม จะเกิดการพูดถึง และบอกต่อ หากร้านไหนที่มีสินค้า Merchandise Limited Collection แบบนี้อยู่แล้ว อย่าลืมที่จะจัด Display และจัดเรียงสินค้าให้หาง่าย และเข้าถึงได้ง่าย อย่างที่ร้าน Starbucks เอง เลือกที่จะวางใน Shelf ใกล้ๆแคชเชียร์ และใกล้ประตูทางเข้าออก เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าสนใจสินค้านี้ตั้งแต่แว่บแรกที่เห็นนั่นเอง

กลุ่มสินค้า Merchandise นี้ยังมีประโยชน์มากในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะสามารถซื้อฝากใครๆก็ได้ หรือจะนำมาจับชุดของขวัญให้คู่กับเมนูขนมที่ร้านก็ยิ่งทำให้ผู้รับรู้สึกไก้สัมผัสประสบการณ์ เหมือนได้ไปทานที่ร้านเองเลย หากใครที่ไม่รู้จะครีเอทสินค้าอะไร อาจจะเริ่มจากการไป Collaboration กับศิลปิน Artist ก่อนเพื่อให้ลูกค้ารู้จักเราได้ง่ายขึ้น แล้วค่อยเลือกสินค้าออกตามซีซั่นก็ย่อมได้

Limited Collection Limited Collection

ที่มา

https://www.marketingoops.com

https://www.carousell.sg

https://jw-webmagazine.com/

https://chachanoma-shop.jp/SHOP/0301-1008.html

https://www.facebook.com/paperandtea/photos

บทความจาก : Fuwafuwa