Matcha Cookie เมนูง่ายๆที่ไม่ธรรมดา

หากพูดถึงคุ้กกี้ ขนมเบเกอรี่พื้นฐานที่สุดที่ทำได้ง่าย เห็นได้จากสถานการณ์ช่วงนี้ที่หลายคนเริ่มเปิดเตาอบขนมขายกันจนลูกค้าเองก็เลือกไม่ถูกว่าจะทานขนมจากร้านไหนดี ดังนั้น เพื่อให้เรามีร้านขนมที่แตกต่างจากร้านอื่น การใส่ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ลงไปจึงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในทุกๆขั้นตอน เริ่มจากการทำคุ้กกี้เนยชาเขียวปกติที่สามารถสร้างความแตกต่างจากร้านอื่นได้ง่ายๆ เพียงเพิ่มลวดลายด้วยการเคลือบช็อคโกแลต หรือไวท์ช็อคโกแลต โรยด้วยผงชาเขียวอีกเล็กน้อย หรือโรยช็อคโกแลตชิพ แต่งด้วยดอกไม้ที่รับประทานได้ เป็นการสร้างความแตกต่างที่ทำให้คุ้กกี้ชาเขียวเพลนๆดูมี Value มากขึ้น

นอกจากการเพิ่มท้อปปิ้งบนคุ้กกี้ชาเขียวเพลนๆแล้ว การใส่ส่วนผสมเพิ่มความหลากสีให้คุ้กกี้ 1 ชิ้น ก็เป็นอีกไอเดียที่มือใหม่บางคนไม่กล้าทำ ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวรสชาติและสีที่ออกมาไม่สวยและอร่อย จึงเน้นทำแยกรสชาติไปเลย แต่ถ้าใครที่พอมีฝีมืออยู่แล้ว ก็แนะนำให้ผสมหลายๆรสชาติ ไว้ด้วยกัน จะยิ่งทำให้ขนมชิ้นนั้นมีมิติมากขึ้น

นอกจากนี้หากใครมีฝีมือในการปั้นก็ยังสามารถทำคุ้กกี้ชาเขียวเป็นรูปทรงต่างๆตามธรรมชาติ อย่างใบไม้ หรือรูปสัตว์เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าแม่และเด็กมากขึ้น

นอกจากการทำคุ้กกี้เป็นลวดลายต่างๆแล้ว อีกสไตล์การทำคุ้กกี้ที่น่าสนใจ คือ การทำ โมจิมัทฉะคุ้กกี้
คุ้กกี้ชาเขียวสอดไส้โมจินุ่มหนึ่บ เป็นคุ้กกี้สไตล์ญี่ปุ่น ที่ในไทยยังไม่มีร้านไหนทำ หากใครสนใจลองเปิดเตาทำเมนูนี้ มาดูสูตรไปพร้อมๆกันเลย……

เริ่มจากใช้แป้งข้าวเหนียว 80 กรัม ผสมกับน้ำตาล 80 กรัม และน้ำ 90 กรัม คนให้เข้ากัน แล้วเอาเข้าไมโครเวฟ 600 วัตต์ เป็นเวลา 1.20 นาที แล้วเอาออกมาคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำเข้าไมโครเวฟที่ 600 วัตต์ อีก 10 – 20 วินาที แล้วเอาออกมาคน ปั้นม้วนไว้เป็นทรงกระบอกเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว ตัดแบ่งพักไว้ให้แต่ละชิ้นหนาประมาณ 1 ซม.

ขั้นต่อไป ทำคุ้กกี้ชาเขียวได้ตามสไตล์ที่ทางร้านชอบ เพียงแค่ช่วงที่ปั้นโดว์คุ้กกี้เอาโมจิที่ทำไว้แล้วใส่ไว้ตรงกลาง แล้วเข้าอบได้ตามปกติเลยเพราะแป้งโมจิสุกแล้ว ส่วนเทคนิคเพิ่มเติมที่แนะนำคือ คุ้กกี้ชาเขียวนี้ควรใช้น้ำตาลทรายแดงในการทำจะอร่อยยิ่งขึ้น

ส่วนใครที่อยากแตกต่างอีกวิธีคือ การทำคุ้กกี้โอริโอ้ แต่ใส่ไส้ครีมชาเขียวแทน ก็เป็นอีกเมนูที่น่าทานและทำไม่ยาก เพียงแค่ใช้สูตรคุ้กกิ้ที่ทางร้านทำอยู่แล้วมาดัดแปลงเพิ่มเล็กน้อย

นอกจากการให้ความสำคัญกับตัวสินค้าแล้ว แพคเกจในการใส่ขนมก็ควรแตกต่างและโดเด่นไม่ซ้ำใครเช่นกัน ร้านส่วนใหญ่นิยมใส่กระป๋องพลาสติกง่ายๆ หรือถุงใสแล้วติดสติกเกอร์โลโก้ร้าน เพราะเป็นต้นทุนแพคเกตที่ราคาประหยัดที่สุด แต่ถ้าเราเพิ่มลูกเล่นลงไปในคุ้กกี้ แต่ถ้าเราเพิ่มกิมมิคด้วยการติดโบว์ หรือข้อความน่ารักๆเหมาะกับการเป็นของฝาก ก็ช่วยเพิ่ม value ทำให้คนอยากซื้อให้กันมากขึ้น เราจะเห็นที่ญี่ปุ่นเวลาเราไปสถานที่ต่างๆ จะมีการทำขนมแล้วตีตราสถานที่นั้นๆ อย่างเช่นที่สวนสัตว์ หรืออะควาเรี่ยม ก็จะมีการทำคุ้กกี้เป็ฯลวดลายสัตว์เรียงแพ็คลงกล่องอย่างสวยงาม ทำให้คนที่ไปเที่ยวสถานที่นั้นๆ เห็นแล้วอยากซื้อกลับไปเป็นของฝาก

By : Contrary To Popular Belief