เทศกาลไหว้พระจันทร์ของแต่ละประเทศก็มีธรรมเนียมที่ไม่เหมือนกัน อย่างที่ญี่ปุ่น แม้จะได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน แต่ขนมที่ใช้ไหว้ในช่วงเทศกาลนี้กลับแแตกต่างกันออกไป ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนชนมไหว้พระจันทร์ที่เราคุ้นเคยเพราะคนญี่ปุ่น มีความเชื่อกิดขึ้นเมื่อมีขุนนางเป็นผู้ที่นำเข้ามาในช่วงสมัยนาระ-สมัยเฮอัน ในวันขึ้น 15 ค่ำ พลังงานที่มาจากดวงจันทร์จะมีสิ่งลี้ลับที่จะสามารถให้พรที่ขอนั้นเป็นจริงขึ้นมาได้ (บางครั้งคนญี่ปุ่นจะจินตนาการเห็นเงาบนพื้นผิวพระจันทร์นั้นเป็นรูปร่างคล้ายกระต่ายที่กำลังตำขนมโมจิ) โดยส่วนใหญ่ชาวนามักจะไหว้เพื่อแสดงการขอบคุณหลังจากที่ได้เก็บเกี่ยวพืชผลที่อุดมสมบูรณ์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยส่วนใหญ่ชาวนามักจะขอพรจากดวงจันทร์ให้เก็บเกี่ยวได้ผลผลิตที่ดี พืชผลอุดมสมบูรณ์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและเพื่อขอพรให้ได้พืชผลที่ดีในปีต่อๆไป
วันนั้นผู้คนจะเฉลิมฉลองด้วยการเตรียมอาหารประจำฤดูใบไม้ร่วงในการบวงสรวงพระจันทร์ คือขนมไหว้พระจันทร์ซึกิมิ ดังโงะ (月見 団子tsukimi dango)ขนมที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าและน้ำตาล นำไปนึ่งพร้อมปั้นเป็นลูกกลมๆ ส่วนมากก็จะปั้นโมจิทรงกลมทั้งหมด 12 ลูกตาม 12เดือนในหนึ่งปี หรือ 15ลูกตามคำเรียก “คืนที่สิบห้า” ซึ่งดังโงะแต่ละพื้นที่ก็มีหน้าตาแตกต่างกันออกไป และขนมสมัยใหม่ ก็มีการดัดแปลงเอาโยคัง หรือเนริกิริมาปั้นให้เป็นรูปร่างกระต่ายมากขึ้น เพื่อให้เข้ากับเทศกาล
อย่างไรก็ตามในไทยยึดความเชื่อตามแบบจีนแท้ๆ ที่มีการใช้ขนมไหว้พระจันทร์ หลากหลายไส้ อย่างไส้ยอดนิยมหรือไส้ดั้งเดิมจะเป็น ไส้ทุเรียน , ไส้ลูกบัว เป็นต้น แต่เดี๋ยวนี้มีไส้แปลกใหม่ เช่น ไส้ช็อกโกแลต, ไส้ชาเขียว, ไส้คัสตาร์ด และอีกมากมาย แน่นอนว่าไส้ต่างๆของขนมไหว้พระจันทร์ช่วยสร้างความตื่นเต้นแปลกใหม่ให้กับช่วงเทศกาลเป็นอย่างยิ่ง นอกจากไส้ขนมที่มีมากขึ้นแล้ว หลากหลายร้านก็ยังเพิ่มเติมความแปลกใหม่ให้กับตัวแป้งขนมไหว้พระจันทร์ด้วย ถ้าเป็นขนมไหว้พระจันทร์ต้นตำรับก็ต้องเป็น “แป้งอบ”แต่เดี๋ยวนี้ก็จะมีแป้งขนมไหว้พระจันทร์แบบไม่อบหรือที่หลายคนเรียกว่า “แป้งบัวหิมะ”มาช่วยเพิ่มสีสันด้วย เพราะในแป้งแบบไม่อบนี้สามารถเติมสีสันได้ตามต้องการ ส่วนมากจะนำมาห่อไส้สมัยใหม่หรือไส้ที่ต้องกินแบบเย็นๆ
แป้งขนมไหว้พระจันทร์แบบอบไม่มีอะไรที่ซับซ้อนนัก เพียงผสมส่วนผสมเข้าด้วยกันแล้วนวดจนเนียนเข้ากันดี จึงนำไปห่อไส้ขนมไหว้พระจันทร์ที่เตรียมไว้ กดใส่พิมพ์ เคาะออกมา แล้วนำไปอบให้สุกตามสูตรก็เป็นอันเสร็จ ซึ่งวิธีทำแต่ละร้านก็จะแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่ขนมไหว้พระจันทร์แบบอบจะทำเป็นสอดไส้ชาเขียวผสมเม็ดบัว หรือเกาลัด เพื่อให้ได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น และความกลมกล่อมของชาเขียวที่เข้ากันกับเกาลัด นอกจากทำเป็นไส้ขนมได้แล้วยังสามารถเอามาผสมกับแป้งเพื่อทำให้สีแป้งเป็นสีชาเขียวได้เช่นกัน
แป้งขนมไหว้พระจันทร์แบบอบให้เป็นสีชาเขียว
1.แป้งสาลี 130 กรัม
2.น้ำมันถั่วลิสง 15 กรัม
3.น้ำเชื่อม 65 กรัม
4.ผงมัทฉะ 8 กรัม ขึ้นอยู่กับว่าอยากได้แป้งสีเข้มอ่อนแค่ไหน
ขั้นตอนการทำ
- การเตรียมแป้ง ผงมัทฉะ ผสมน้ำมันถั่วลิสงและน้ำเชื่อมเข้าด้วยกัน จากนั้นเทแป้งสาลีลงบนโต๊ะแล้วเปิดพื้นที่ว่างเป็นวงตรงกลางแป้ง จากนั้นเทส่วนผสมของน้ำมันถั่งลิสงที่ผสมแล้วลงไปในตรงกลางแล้วผสมให้เข้ากัน นวดจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ตัดแบ่งเป็นชิ้นชิ้นละ 12 กรัม (ปรับขนาดได้ตามต้องการ)
- การเตรียมไส้ขนม 50 กรัม ห่อไข่เค็มหั่นครึ่ง 1 ชิ้น โดยวางไข่เค็มไว้ตรงกลาง
- การเตรียมขนม กดตัวแป้งให้แบนแล้วจึงใส่ไส้ลงไปและเป็นก้อนกลม เมื่อปั้นเสร็จแล้วให้โรยแป้งบนพิมพ์ขนมเล็กน้อย แล้วจึงใส่ตัวขนมลงไป กดขนมให้แน่น จากนั้นเคาะออกจากพิมพ์แล้ววางบนถาดอบ
- การอบ นำขนมเข้าอบในเตาที่ปรับอุณหภูมิไว้แล้ว ที่ไฟบน 230 องศาและไฟล่าง 200 องศา เป็นเวลา 10 นาที จากนั้นนำออกมาและทาผิวขนมด้านบนด้วยไข่ ก่อนจะเอาเข้าไปอบต่ออีก 10 นาทีก็เป็นอันเสร็จ
ต่อกันด้วย ขนมไหว้พระจันทร์แบบแป้งไม่อบเมื่อไม่ต้องนำไปอบให้สุกอีกครั้งหนึ่ง จึงต้องทำแป้งให้สุกก่อนนำไปห่อไส้ขนมไหว้พระจันทร์ที่เตรียมไว้ แป้งขนมแบบนี้จริงๆ แล้วมีอยู่มากมายหลายสูตร หากใครเคยกิน “แป้งบัวหิมะ – Snow Skin” ของหลายๆ ร้านก็จะรู้ว่าแต่ละเจ้ามีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ส่วนมากแล้วขนมไหว้พระจันทร์แบบแป้งไม่อบจะกินแบบเย็น หากนำไปแช่ตู้เย็นแล้วแข็งเกินไป เพียงนำออกมาวางข้างนอกให้คลายความเย็นลงก็กินได้เลย ซึ่งขนมไหว้พระจันทร์แบบนี้จะสามารถใส่ผงมัทฉะเข้าไปในระหว่างผสมแป้งได้ เพื่อให้ได้แป้งรสชาเขียว สีสวยสดใสตามที่ต้องการ หรือถ้าใครครีเอทไปอีก อยากจะลองใส่ผงชาโฮจิฉะลงไป ก็น่าสนใจไม่น้อย
แป้งขนมไหว้พระจันทร์แบบไม่อบ
- แป้งข้าวเหนียว 50 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 40 กรัม
- น้ำตาลทราย 70 กรัม
- นมสด 200 กรัม
- นมข้นหวาน 40 กรัม
- น้ำมันพืช 40 กรัม
- ผงมัทฉะ 5 กรัม
ขั้นตอนการทำ
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน นำไปนึ่งด้วยไฟกลาง ประมาณ 20-30 นาที (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับขนาดภาชนะ)
- เมื่อนึ่งส่วนผสมเสร็จแล้ว นำออกมาพักไว้ให้พออุ่น แล้วจึงนำแป้งมานวดให้เนียน
- ส่วนไส้ ก็สามารถใส่ได้หลายแบบ หลังจากที่นำแป้งไปห่อไส้แล้ว กดปั้นกลม แล้วนำไปกดด้วยพิมพ์ขนมไหว้พระจันทร์ตามชอบเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ไอเดียเมนูใหม่ ที่ร้านขนมหลายร้านอาจจะนึกไม่ถึง ให้ช่วงเทศกาลพิเศษ มีขนมแบบใหม่ๆออกมา เพื่อเรียกลูกค้าทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ ยิ่งถ้าได้แพคเกจดีๆสวยๆ ทั้งแบบชิ้นเดี่ยว หรือซื้อเป็นชุด ยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับขนมไหว้พระจันทร์ สร้างความประทับใจให้ผู้รับแน่นอน
ที่มา
https://www.huangkitchen.com/matcha-green-tea-snowskin-mooncake/
https://songdaygivral.hatenablog.com/entry/cac_loai_banh_trung_thu_givral
https://mobile.twitter.com/mo_hotels/status/500360064214241280
https://goodyfoodies.blogspot.com/2013/09/recipe-homemade-snowskin-mooncakes-with.html
บทความจาก : Fuwafuwa