ตามเทรนด์ชีสเค้กสไตล์คนเลิฟมัทฉะ

ช่วงนี้หันไปทางไหนก็จะเจอเมนูชีสเเค้กแทบจะทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น Baked Cheesecakeชีสเค้กแบบอบ เพื่อทำให้น้ำจากเนื้อเค้กระเหยออกบางส่วน เค้กมีรสชาติเข้มข้นและสีออกน้ำตาลไหม้ ส่วนหน้าเค้กจะยุบลงพอสมควร หรือจะเป็น นิวยอร์กชีสเค้กชีสเค้กที่อบพร้อมกับด้วยน้ำร้อน  เพื่อทำให้เนื้อเค้กยังคงความชุ่มฉ่ำหนานุ่ม และมีรสเปรี้ยวจากซาวน์ครีมที่โดนเด่น  ส่วนหน้าเค้กมีสีน้ำตาลอ่อนกำลังสวย หรือชชีสเค้กอีกแบบที่เนื้อฟูเบา แถมลายได้ในปาก ชีสเค้กสไตล์นี้ เรียกว่า ซูเฟลชีสเค้กชีสเค้กที่มีส่วนผสมของเมอแรงเนื้อฟูเบา  เมื่อนำไปอบพร้อมกับถ้วยน้ำร้อน  จะได้เนื้อเค้กฟูสวย  และมีสีเหลืองอ่อนคล้ายไข่ไก่  ดูน่ารับประทาน ไม่ว่าจะเป็นชีสเค้กแบบไหน

Matcha Basque Cheesecake

Matcha Basque Cheesecake ( ใช้แม่พิมพ์ 15 cm. ) ชีสเค้กหน้าไหม้ที่นิยมมากที่สุดในช่วงนี้ แต่น้อยคนมากๆที่จะทำชีสเค้กหน้าไหม้เป็นรสชาเขียว รอบนี้เลยเอาสูตรชีสเค้กชาเขียวหน้าไหม้มาให้คนรักขนมได้เปิดเตาลองทำกันดู

วัตถุดิบ

  1. ครีมชีส 200กรัม
  2. น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลอ้อย 70 กรัม
  3. ไข่แดง 1 ฟอง
  4. ไข่ทั้งลูก 2 ฟอง
  5. ครีมสด 115 มล.
  6. แป้งเค้ก 5 กรัม
  7. ผงชาเขียว 4 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำครีมชีสกับน้ำตาลมาผสมกัน คลุกจนเป็นเนื้อเดียวกัน

2. ใส่เฉพาะไข่แดง 1 ฟองลงไปแล้วคนให้เข้ากัน

3. ตอกไข่อีก 2 ใบ ตีให้เข้ากันก่อน จากนั้นค่อยๆ เทใส่ลงไปในข้อ 2 และคนต่อให้เข้ากัน

4. ใส่ครีมสดคนไปสักพัก ใส่แป้งเค้ก ผงชาเขียวแล้วคนให้เข้ากัน

5. นำกระดาษไขมาปูแม่พิมพ์ หากมีเนยให้นำเนยหรือน้ำมันพืชมาทาระหว่างแม่พิมพ์กับกระดาษไข ตอนเอาออกจะได้ไม่ติด และถ้าอยากให้เนื้อเนียนให้กรองด้วยตะแกรงค่ะ

6. ใส่ในเตาที่ มีการ pre-heated 220 องศา 20-25 นาที โดยใส่ 220 องศา 20-25 นาที หรือเกือบ 1 ชม. จนกว่าหน้าจะไหม้

7. หลังนำออกมาแล้วรอจนเย็น ใส่ตู้เย็นข้ามคืน จะทำให้อร่อยมากยิ่งขึ้น

8. สามารถตกแต่งด้วยการโรยไอซิ่งแล้วท้อปปิ้งด้วยผลไม้สดหลากสี

No Bake Chocolate Matcha Cheesecake No Bake Chocolate Matcha Cheesecake

No Bake Chocolate Matcha Cheesecake( หลังทำเสร็จแล้วแนะนำให้นำขนมเข้าตู้เย็นไว้ตลอดเวลา ) เมนูนี้สามารตกแต่งจัดเสิร์ฟได้หลายแบบตามความชอบและสไตล์ของที่ร้าน  เป็นชีสเค้กแบบไม่อบ ที่ง่ายและทำให้คนไม่มีเตาอบที่บ้านสามารถทานขนมอร่อยๆได้ด้วยฝีมือตัวเอง

1. ส่วนผสมฐานขนม

ข้าวโอ้ต 100 กรัม

อินทผาลัม ½ ถ้วย

ผงโกโก้ 40 กรัม

กลิ่นวนิลา ½ ช้อนชา

เกลือ เล็กน้อย

น้ำมันมะพร้าว ½ ถ้วย

**ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้วกรุลงพิมพ์

—————

2. ส่วนด้านบน

เม็ดมะม่วงหิพานต์ และ แมคคาดีเมียอย่างละ 1 ถ้วย

อะกาเว่ไซรัป ⅔  ถ้วย

นม 1/4 ถ้วย

ผงชาเขียว 1  ช้อนชา

น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือ เล็กน้อย

น้ำมันมะพร้าว ¼  ถ้วย

**ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันด้วยเครื่องปั่นอาหารแล้วเททับฐานขนม เข้าตู้เย็น 2-3 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะเซ็ตตัว ตกแต่งหน้าขนมด้วยผลไม้ตามชอบ

หากใครชอบสไตล์เปรี้ยวสดชื่นสามารถเพิ่มปริมาณน้ำมะนาวลงไปได้ หรือดัดแปลงให้ทำด้วยพิมพ์ที่ขนาดเล็กลง เพื่อให้ไม่ซ้ำกับร้านอื่นก็น่ารกไปอีกแบบ

No Bake Chocolate Matcha Cheesecake

หรือหากจะเพิ่มความครีเอทให้กับชีสเค้กไปอีกแบบสามารถทำได้ด้วยการเพิ่มชั้น layer ของขนมที่มีสีและรสชาติที่แตกต่างตัดกัน อย่างราสเบอรี่ ด้วยการใช้ราสเบอรี่แช่แข็ง  100 กรัม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 120 กรัม เมเปิ้ลไซรัป 60 ml. นมอัลมอนด์ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำเลม่อน 2 ช้อนชา เนยมะพร้าว 100 กรัม ปั่นรวมกัน เทลงไปก่อนเป็น 1 layer แล้วค่อยนำส่วน

No Bake Chocolate Matcha Cheesecake

ส่วนใครที่เป็นคนแพ้อาหารกลุ่ม นม ไข่ เนย หรือทานวีแกน หรืออยากทานขนมี่ไม่อ้วนจนเกินไป Vegan matcha cheesecakeเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนเลิฟมัทฉะจะต้องติดใจ

Vegan matcha cheesecake Vegan matcha cheesecake

วัตถุดิบส่วนฐานที่เป็นแป้งสีน้ำตาล

ข้าวโอ้ต 1 ถ้วย

มะพร้าวคั่วชิ้นเล็ก ¼ ถ้วย

แป้งอัลมอนด์ ¾ ถ้วย

ผงซินนาม่อน ½ ช้อนชา

เกลือ ¼ ช้อนชา

น้ำมันมะพร้าว ¼ ถ้วย

อะกาเว่ไซรัป 3 ช้อนโต๊ะ

** นำทั้งหมดผัดในกระทะไฟกลางจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปปั่นรวมกันให้เป็นนื้อเดียว แล้วตัดกระดาษไขรองอบเป็นวงกลมวางไปในพิมพ์ กรุส่วนลงพิมพ์ขนาด เส้นผ่านศก 7 นิ้ว ให้หน้าประมาณ ¼ นิ้ว อบไฟ 170 องศา 10 นาที หรือจนกระทั่งเป็นสีเหลืองทอง แล้วนำออกมาพักให้เย็น

ส่วนผสมที่เป็นไส้หน้าขนม

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ½ ถ้วย

นมมะพร้าว ½ ถ้วย

อะกาเว่ไซรัป ⅓ ถ้วย

โยเกิร์ตมะพร้าว ¼ ถ้วย

น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

กลินวนืลา 1 ช้อนชาเกลือ ¼ ช้อนชา

ผงชาเขียว 4 ช้อนชา

**ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน หากใครที่ชอบชาเขียวเข้มข้น สามารถเพิ่มปริมาณผงชาเขียวได้อีก 1 ช้อนชา เทส่วนส่วนที่ปั้นลงในฐานชีสเค้กที่ทำเตรียมไว้ แล้วเข้าช่องฟรีซประมาณ 1-2 ชั่วโมงให้ขนมเซ็ตตัว แนะนำให้นำออกมาตั้งในอุณหภูมิห้อง 10-15 นาทีก่อนตัดเสิร์ฟ สามารถตกแต่งท้อปปิ้งด้านบนด้วยดอกไม้ ผลไม้ตามชอบได้

matcha cheesecake matcha cheesecake

ชีสเค้กยังสามารถดัดแปลงได้อีกหลายแบบ เพียงแค่เปลี่ยนพิมพ์จากกลมๆที่ทุกร้านชอบใช้เป็นพิมพ์สี่เหลี่ยมบ้าง หรือใช้ผลไม้ตัวอื่นนอกจาสตอเบอรี่ที่หลายร้านนิยมใช้กันมาทานคู่กัน และยังสามารถดัดแปลงเป็นชีสเค้กชาโฮจิฉะได้อีก คนเลิฟมัทฉะทั้งที ต้องลองเข้าครัวปรับสูตรชีสเค้กปกติที่เคยทำ ให้ใส่ผงมัทฉะลงไปตามเทรนด์ช่วงนี้กัน!!

ที่มา

https://www.nathaliesader.com/blog/2018/09/07/raw-matcha-chocolate-cheesecake

https://www.marumura.com/green-tea-basque-burnt-cheesecake/

https://www.twospoons.ca/vegan-matcha-cheesecake/

บทความจาก : Fuwafuwa

Matcha Cookie เมนูง่ายๆที่ไม่ธรรมดา

หากพูดถึงคุ้กกี้ ขนมเบเกอรี่พื้นฐานที่สุดที่ทำได้ง่าย เห็นได้จากสถานการณ์ช่วงนี้ที่หลายคนเริ่มเปิดเตาอบขนมขายกันจนลูกค้าเองก็เลือกไม่ถูกว่าจะทานขนมจากร้านไหนดี ดังนั้น เพื่อให้เรามีร้านขนมที่แตกต่างจากร้านอื่น การใส่ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ลงไปจึงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในทุกๆขั้นตอน

เริ่มจากการทำคุ้กกี้เนยชาเขียวปกติที่สามารถสร้างความแตกต่างจากร้านอื่นได้ง่ายๆ เพียงเพิ่มลวดลายด้วยการเคลือบช็อคโกแลต หรือไวท์ช็อคโกแลต  โรยด้วยผงชาเขียวอีกเล็กน้อย หรือโรยช็อคโกแลตชิพ แต่งด้วยดอกไม้ที่รับประทานได้ เป็นการสร้างความแตกต่างที่ทำให้คุ้กกี้ชาเขียวเพลนๆดูมี Value มากขึ้น

matcha cookie

นอกจากการเพิ่มท้อปปิ้งบนคุ้กกี้ชาเขียวเพลนๆแล้ว การใส่ส่วนผสมเพิ่มความหลากสีให้คุ้กกี้ 1 ชิ้น ก็เป็นอีกไอเดียที่มือใหม่บางคนไม่กล้าทำ ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวรสชาติและสีที่ออกมาไม่สวยและอร่อย จึงเน้นทำแยกรสชาติไปเลย แต่ถ้าใครที่พอมีฝีมืออยู่แล้ว ก็แนะนำให้ผสมหลายๆรสชาติ ไว้ด้วยกัน จะยิ่งทำให้ขนมชิ้นนั้นมีมิติมากขึ้น

นอกจากนี้หากใครมีฝีมือในการปั้นก็ยังสามารถทำคุ้กกี้ชาเขียวเป็นรูปทรงต่างๆตามธรรมชาติ อย่างใบไม้ หรือรูปสัตว์เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าแม่และเด็กมากขึ้น

matcha cookie matcha cookie matcha cookie

นอกจากการทำคุ้กกี้เป็นลวดลายต่างๆแล้ว อีกสไตล์การทำคุ้กกี้ที่น่าสนใจ คือ การทำ โมจิมัทฉะคุ้กกี้

คุ้กกี้ชาเขียวสอดไส้โมจินุ่มหนึ่บ เป็นคุ้กกี้สไตล์ญี่ปุ่น ที่ในไทยยังไม่มีร้านไหนทำ หากใครสนใจลองเปิดเตาทำเมนูนี้ มาดูสูตรไปพร้อมๆกันเลย……

เริ่มจากใช้แป้งข้าวเหนียว 80 กรัม ผสมกับน้ำตาล 80 กรัม และน้ำ 90 กรัม คนให้เข้ากัน แล้วเอาเข้าไมโครเวฟ 600 วัตต์ เป็นเวลา 1.20 นาที แล้วเอาออกมาคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำเข้าไมโครเวฟที่ 600 วัตต์ อีก 10 – 20 วินาที แล้วเอาออกมาคน ปั้นม้วนไว้เป็นทรงกระบอกเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว  ตัดแบ่งพักไว้ให้แต่ละชิ้นหนาประมาณ 1 ซม.

ขั้นต่อไป ทำคุ้กกี้ชาเขียวได้ตามสไตล์ที่ทางร้านชอบ เพียงแค่ช่วงที่ปั้นโดว์คุ้กกี้เอาโมจิที่ทำไว้แล้วใส่ไว้ตรงกลาง แล้วเข้าอบได้ตามปกติเลยเพราะแป้งโมจิสุกแล้ว ส่วนเทคนิคเพิ่มเติมที่แนะนำคือ คุ้กกี้ชาเขียวนี้ควรใช้น้ำตาลทรายแดงในการทำจะอร่อยยิ่งขึ้น

ส่วนใครที่อยากแตกต่างอีกวิธีคือการทำคุ้กกี้โอริโอ้แต่ใส่ไส้ครีมชาเขียวแทน ก็เป็นอีกเมนูที่น่าทานและทำไม่ยาก เพียงแค่ใช้สูตรคุ้กกิ้ที่ทางร้านทำอยู่แล้วมาดัดแปลงเพิ่มเล็กน้อย

moji matcha cookie คุ้กกี้โอริโอ้

นอกจากการให้ความสำคัญกับตัวสินค้าแล้ว แพคเกจในการใส่ขนมก็ควรแตกต่างและโดเด่นไม่ซ้ำใครเช่นกัน ร้านส่วนใหญ่นิยมใส่กระป๋องพลาสติกง่ายๆ หรือถุงใสแล้วติดสติกเกอร์โลโก้ร้าน เพราะเป็นต้นทุนแพคเกตที่ราคาประหยัดที่สุด แต่ถ้าเราเพิ่มลูกเล่นลงไปในคุ้กกี้ แต่ถ้าเราเพิ่มกิมมิคด้วยการติดโบว์ หรือข้อความน่ารักๆเหมาะกับการเป็นของฝาก ก็ช่วยเพิ่ม value ทำให้คนอยากซื้อให้กันมากขึ้น

cookie package cookie package

เราจะเห็นที่ญี่ปุ่นเวลาเราไปสถานที่ต่างๆ จะมีการทำขนมแล้วตีตราสถานที่นั้นๆ อย่างเช่นที่สวนสัตว์ หรืออะควาเรี่ยม ก็จะมีการทำคุ้กกี้เป็ฯลวดลายสัตว์เรียงแพ็คลงกล่องอย่างสวยงาม ทำให้คนที่ไปเที่ยวสถานที่นั้นๆ เห็นแล้วอยากซื้อกลับไปเป็นของฝาก

cookie box

การจัดชุดเสิร์ฟอีกวิธีที่ไม่ควรพลาด คือ กล่องของขวัญบ็อคเซ็ต สำหรับทุกเทศกาล เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆที่แม้ค้าออนไลน์ไม่ควรลืมที่จะคำนึงถึงตรงนี้ เพราะลูกค้ายุคนี้เน้นดูที่แพคเกจก่อนเป็นอย่างแรก เพราะฉะนั้น ถ้าขนมเราอร่อยแล้วอย่าลืมที่จะหาแพคเกจจิ้งเก๋ๆ มาเสิร์ฟขนมให้ลูกค้า ไปสร้างความประทับใจกับผู้รับอีกต่อนึง

cookie box set cookie box set cookie box set

ที่มา

https://raineorshinecakery.wordpress.com/recipes/cookies/matcha-moochie/

https://veggiekinsblog.com/2019/05/25/matcha-monstera-cookies/

https://www.pinterest.com/pin/811562795335676576/

บทความจาก : Fuwafuwa