ไอเดียเมนูเบเกอรี่ชาเขียวแบบไม่ง้อเตาอบ

การทำเบเกอรี่อาจจะดูเป็นเรื่องยุ่งยากของใครหลายๆคน ทั้งด้วยเรื่องอุปกรณ์ที่ต้องลงทุนเพิ่มมากมาย เตาอบก็กินพื้นที่ในร้าน แถมการอบขนมก็ยังควบคุมคุณภาพยากไปสำหรับมือใหม่หัดลองทำขนม ลองมาดุไอเดียดีๆของขนม”ไม่อบ” ทำง่าย ใช้เวลาไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง แถมเพิ่มเทคนิคในการจัดตกแต่ง ทำให้ขนมไม่อบที่แสนง่าย สวยน่าทาน ดูมีมูลค่ามากขึ้น

เริ่มจาก เมนูแสนง่ายอย่างเครปเค้กชาเขียวที่ใช้เพียงกระทะ ในการทำแผ่นแป้งเครป สามารถครีเอทเมนูน่าทานได้

เครปเค้กชาเขียว เครปเค้กชาเขียว

เริ่มจากนำไข่ 3 ฟอง +  นม 1 ½ ถ้วย + น้ำตาล 1 3/4 ช้อนโต๊ะ + แป้ง 1 ถ้วย + ผงมัทฉะ 1 ช้อนโต๊ะ + ผงฟู 1 ช้อนชา และ เนยละลาย 2 ช้อนโต๊ะ  ผสมให้เข้ากัน เทส่วนผสมทั้งหมดหลังจากคนเข้ากันแล้ว ผ่านกระชอนและพักไว้ในตู้เย็น 2 ชั่วโมง เอาออกมาทอดบนกระทะ บางๆ ให้สุกทั่ว แล้ววางพักไว้ให้เย็น ต่อที่การทำครีมสดแสนอร่อย เพียงนำ วิปปิ้งครีม 3/4 ถ้วย + น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ + เหล้ารัม 1 ช้อนโต๊ะมาตีด้วยตะกร้อมือจนตั้งยอดแข็ง แช่เย็นพักไว้

นำแป้งมาาวาง สลับกับการปาดครีมสดลงไปบาางๆที่ละชั้นซ้อนกันจนสูงเท่าท่ต้องการห่อด้วยพลาสติกให้แน่นและแช่แข็งเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เอามาตกแต่งตามสไตล์ที่ชอบ เช่น เทช็อกโกแลตลงบนเครปแล้วปล่อยให้แห้ง

โรยด้วยผงมัทฉะและทองคำเปลว หรือจะครีเอทไปอีกตั้งแต่ตอนวางแป้งเครป จากการวางซ้อนกัน ให้เป็นการวางเป็นวงกลมแทน ก็จะได้ขนมไม่อบในรูปแบบเก๋ไก๋ ไม่ซ้ำร้านไหนเลย

มูสชาเขียว

นอกจากเครปเค้ก การทำมูสชาเขียว ก็เป็นขนมอีกประเภทที่นิยมทำกัยสำหรับครัวที่ไม่มีเตาอบ เพิ่มความแตกต่างหลากหลายด้วยการจัดตกแต่งที่ทำให้ขนมดูสวย น่าทาน สามารถดูวิธีทำมูสชาเขียวได้ที่ https://matchazuki.com/matcha-mousse-pie/

อีกเมนูที่เป็นสูตรหวานน้อย และเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ คือ การทำ มัทฉะบาร์

มัทฉะบาร์ มัทฉะบาร์

แป้งข้าวโอ๊ต ผงมัทฉะและเกลือ ส่วนผสมสำคัญที่ใช้ในการทำขนมไม่อบตัวนี้ เททั้งหมดลงในชามผสมขนาดใหญ่คนให้เข้ากัน ใส่น้ำเชื่อมเมเปิ้ล เนย นมอัลมอนด์และวานิลลา ผัดจนได้แป้งโดว์ ใช้มือเปียกกดลงในจานอบที่เตรียมไว้ให้เท่าๆ กัน เคลือบช็อกโกแลตโดยใส่ช็อกโกแลตชิพน้ำมันมะพร้าวและเนยลงในชาม เข้าไมโครเวฟ 20 วินาที หรือจนกว่าจะละลาย เทช็อกโกแลตให้ทั่วแท่งแล้วใช้ไม้พายเกลี่ยให้ทั่ว แช่แข็งอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนหั่นเป็นแท่งตามขนาดที่ต้องการ บางร้านใช้การผสมธัญพืชเข้าไปอีกเพื่อให้มีสารอาหารที่มากขึ้น

Matcha Bar

พานาคอตต้าชาเขียวขนมอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ต้องใช้เตาอบ ทำง่าย และสามารถเปลี่ยนพิมพ์ได้หลากหลายทรงตามความชอบ และตกแต่งได้หลายแบบ ทั้งราดซอสสตอเบอรี่ โรยถั่วพิตาชิโอ้ ขนมไม่อบ ทานแบบเย็นเหมาะกับอากาศร้อนๆบ้านเรา

พานาคอตต้าชาเขียว พานาคอตต้าชาเขียว

วิธีทำพานาคอตต้าชาเขียวอย่างง่าย เพียงแค่ แช่เจลาติน 8 กรัม ในน้ำเย็นจนนิ่ม เทใส่ครีม 750 มล. + นม 300 มล + น้ำตาลทราย 160 กรัม และกลิ่นวนิลา คนด้วยไฟอ่อนๆ จนเจลาตินละลายหมดแล้วจึงนำออกจากเตา กรองส่วนผสมลงในแม่พิมพ์แล้ว แช่เย็นเป็นเวลา 4 ชั่วโมงหรือข้ามคืน เวลาเสิร์ฟ สามารถเสิร์ฟได้ทั้งพิมพ์ หรือเทออก ก็ได้ตามความชอบ

พาร์เฟต์ชาเขียว พาร์เฟต์ชาเขียว พาร์เฟต์ชาเขียว

อีกหนึ่งเมนูที่เห็นบ่อยที่ญี่ปุ่น คือ พาร์เฟต์ชาเขียวที่ถูกจัดแต่งอย่างสวยงามในแก้วทรงสูง เรียงสลับกับครีมสดหลากหลายรสชาติกันตามสไตล์ของแต่ละร้าน ขนมที่ไม่ต้องใช้เตาอบ และเตรียมวัตถุดิบง่ายที่สุด ท้อปปิ้งด้วย นามะมัทฉะช็อคโกแลต หรือจะเป็นวุ้นชาเขียวญี่ปุ่น ที่เรียกว่า โยคัง ก็ได้ เพิ่มความหนึ่บระหว่างชั้นด้วยโมจิก้อนกลม  แก้เลี่ยนระหว่างชั้นด้วยผลไม้รสเปรี้ยว คอนเฟลค หรือถั่ว เพียงแค่นี้ ก็ได้ขนมแสนอร่อยโดยไม่ต้องใช้เตาอบเลย ถึงแม้ว่าการทำขนมที่อุปกรณ์จะเยอะมากจนหลายคนไม่กล้าที่จะลองทำเมนูใหม่ๆมาขายในร้าน แต่ ขนมไม่อบ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ง่าย สะดวก และเหมาะสำหรับมือใหม่หัดทำขนมแน่นอน

ที่มา

https://www.snixykitchen.com/mint-chocolate-mousse-toasted-matcha-meringue/

https://www.hummusapien.com/matcha-protein-bars/

https://balancingandie.com/nobakematchaoatmealbars/

https://www.crazyvegankitchen.com/vegan-matcha-tiramisu-green-tea-tiramisu/

https://www.tastemade.com/videos/matcha-gold-crepe-cakes

บทความจาก : Fuwafuwa

ทำความรู้จักการปลูกชาเขียวแบบออร์แกนิค

ทำไมรสชาติของชาญี่ปุ่นออร์แกนิคจึงมีกลิ่นหอม และหวานละมุน?

Matcha

เพราะการปลูกชาออร์แกนิคเป็นการปลูกชาที่ต้องงดปุ๋ยเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ไม่มีการดัดแปลงพันธุกรรม (ไม่มีจีเอ็มโอ) รวมทั้งเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้ตัดต่อทางพันธุกรรม หรือวัตถุสังเคราะห์ใดๆ ซึ่งการเตรียมหน้าดินก่อนปลูก ต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี และในกระบวนการผลิตต้องมีการอนุรักษ์ดินและแหล่งน้ำ เพื่อให้ผลผลิตเจริญเติบโตตามธรรมชาติอย่างแท้จริง และปลอดภัยต่อสุขภาพไม่มีสารตกค้างจากสารเคมี เนื่องจากการปลูกชาโดยทั่วไปยังมีการใช้สารเคมีและยาปราบศัตรูพืชซึ่งอาจจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

ปัจจุบันแม้ชาส่วนใหญ่ที่ญี่ปุ่นเป็นเพียงชาปลอดสารพิษ มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากๆ ที่เป็นออร์แกนิค 100% เพราะเป็นเรื่องยากที่จะสร้างไร่ชาออร์แกนิคนั่นเอง เนื่องจากมีไร่ชาปลอดสารพิษมากมายอยู่ในพื้นที่ติดกัน และมีการแพร่กระจายของปุ๋ยเคมีหรือสารกำจัดศัตรูพืชและสารเคมีที่แทรกซึมผ่านดินจากฟาร์มโดยรอบสามารถเข้าสู่ฟาร์มอินทรีย์ ดังนั้นไร่ชาออร์แกนิคจำเป็นต้องสร้างพื้นที่กันชนหรือที่พักพิงระหว่างไร่ชาออร์แกนิกและไร่ชาปลอดสารพิษ เพื่อให้สภาพดินไร้สารเคมีอย่างแท้จริง

Matcha

ชาออร์แกนิคมีรสชาติที่เรียบง่ายเพราะชาได้รับสารอาหารที่มีอยู่ในดินโดยตรง และรสชาติชาจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย การคัดเฉพาะยอดอ่อน 3 ใบบนเท่านั้น และเก็บเฉพาะช่วงเช้าก่อน 7 โมงเช้า เทคนิคที่ทำให้ชาออร์แกนิคมีรสชาติที่ละมุนพิเศษ เพราะใบชาจะผลิใบรับแสงแดดอ่อนๆ อย่างเต็มที่ และมีละอองน้ำค้างที่จะขับกลิ่นหอมและรสชาติหวานละมุนของชาให้ออกมาได้อย่างเต็มที่ในช่วงเวลาเช้านี่เองสภาพอากาศจึงเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่ทำให้รสชาติชาเป็นเอกลักษณ์

อีกสาเหตุที่การปลูกชาออร์แกนิคได้รับความนิยมไม่มากนักเพราะว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้ออกผลผลิตได้รวดเร็วตามที่ต้องการ ปุ๋ยอินทรีย์จะทำงานช้าเป็นเวลา 3 ถึง 9 เดือน ในทางตรงกันข้ามปุ๋ยเคมีจะทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในเวลาประมาณ 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับต้นทุนการผลิต ที่ปุ๋ยอินทรีย์จะทำงานช้า ดังนั้นต้นชาอินทรีย์จึงมีภาระมากกว่าต้นชาที่ไม่ใช่ออร์แกนิก ในทางกลับกันปุ๋ยเคมีในไร่ชาปลอดสารพิษทำให้กระบวนการปลูกง่ายขึ้นมาก ออกผลผลิตเร็ว

ดินในไร่ชาออร์แกนิกโดยทั่วไปมีอากาศมากกว่าและนุ่มกว่าดินในไร่ชาที่ไม่ใช่อินทรีย์ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณปุ๋ยที่ใช้ด้วย หากใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในปริมาณมากทำให้ดินนุ่มและโปร่งสบายขึ้น นี่เป็นเรื่องจริงสำหรับทั้งไร่ชาออร์แกนิคและไม่ใช่ออร์แกนิค ดินจะโปร่งสบายเนื่องจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในดินและสร้างสารอาหารและสภาพแวดล้อมที่ดีต่อใบชา

Matcha Field

ในพื้นที่ไร่ชาที่เมืองอูจิ เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงฤดูร้อน แสงแดดจะร้อนจัดและอากาศชื้น แต่ด้วยความชื้น พร้อมกับปุ๋ยที่อุดมสมบูรณ์นี้ เป็นสภาพแวดล้อมที่ดีมากสำหรับต้นชา แต่ยังเป็นสภาพแวดล้อมที่วัชพืชชื่นชอบด้วยเช่นกัน การกำจัดวัชพืชในไร่ชาออร์แกนิค ต้องใช้การถอนเถาวัลย์ออกจากต้นชา ถือเป็นงานที่ยาก เพราะชาออร์แกนิค กำจัดวัชพืชทำด้วยมือเท่านั้น และต้องกำจัดออกเพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชดูดซับสารอาหารจากปุ๋ยไปหมด

Matcha

ชาออร์แกนิคจะมีรสชาติที่รสชาติอร่อยกว่าชาจากไร่อื่นๆเพราะเติบโตในสภาพอากาศที่เหมาะสมและแหล่งน้ำธรรมชาติ คุณภาพดีเพราะเก็บด้วยมือ แถมยังปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาว เพราะไม่มีสารเคมีตกค้าง จึงทำให้มีราคาที่สูงกว่าชาทั่วๆไปนั่นเอง

ที่มา

https://www.unclelee.com/article-history-our-tea.html

https://www.hibiki-an.com/contents.php/cnID/19

บทความจาก : Fuwafuwa