ชงชาเขียวด้วยไมโครเวฟได้มั้ยนะ??

make matcha by using microwave

วัฒนธรรม ประเพณีการชงชาเขียวแบบญี่ปุ่นนะ จะใช้ฉะเซ็นในการตีผงชาให้ละลาย ซึ่งอุปกรณ์และเทคโนโลยีทุกวันนี้ได้เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างมาก บางคนอาจจะเคยอ่านบทความเจอว่า ไม่ต้องใช้ฉะเซ็น แต่ใช้เครื่องตีฟองนม หรือเครื่องปั่นก็สามารถตีผงชาให้ละลายได้แล้ว แล้ว “ไมโครเวฟ” เครื่องใช้ไฟฟ้าที่แสนสะดวกสบาย จะสามารถละลายผงชาได้หรือไม่ ความร้อนของไมโครเวฟร้อนเกินไปจนทำให้คุณค่าทางสารอาหารเสียไปหรือไม่เพียงพอต่อการทำละลายผงชามั้ย มาไขข้อข้องใจกัน

เชื่อว่าอาจจะเคยได้ยินกันมาว่า การนำน้ำเปล่าเข้าไมโครเวฟ ไม่ควรทำ เพราะน้ำจะปะทุขึ้นมาเมื่อถึงจุดเดือดจนกระจายเต็มไมโครเวฟ ถ้าต้องการใช้น้ำร้อนจริง ๆ แนะนำให้ใช้วิธีอื่น เช่น กระติกต้มน้ำร้อนหรือใช้หม้อต้มบนเตาดีกว่า แต่เป็นที่น่าแปลกใจเมื่องานวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ออสเตรเลีย พบว่า ชาเขียวที่ใช้ไมโครเวฟจะสกัดสารอาหารและคาเฟอีนที่เป็นประโยชน์ได้มากกว่าเมื่อเทียบกับวิธีการสกัดอื่นๆ เช่นการให้ความร้อนแบบเดิม

การดื่มชาร้อนเกินไป จะทำให้สารสำคัญที่มีประโยชน์ อย่าง”คาเทชิน” ถูกความร้อนทำลายไปเกือบหมด จนเหลือแต่รสชาติและความหอม แต่ถ้าต้องการให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากการดื่มชาแบบร้อนๆ ก็ควรดื่มน้ำชาที่เข้มข้นมากขึ้น เพราะความเข้มข้นของใบชาที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ปริมาณของสารคาเทชินเพิ่มขึ้นไปด้วย แม้ว่าสารเหล่านี้จะสลายตัวไปบางส่วนเมื่อถูกความร้อนก็ตาม แต่ก็ยังคงมีบางส่วนที่หลงเหลือพอที่จะให้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้บ้าง ยังมีข้อมูลจาก ผอ.สถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ได้ระบุว่า การดื่มชาร้อนนั้นมีผลการวิจัยที่ระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระในชาจะหายไปประมาณ 20% หากโดนความร้อนนานๆ และให้เคล็ดลับการชงชาเขียวเพื่อให้สารต้านอนุมูลอิสระยังคงอยู่ ด้วยการบีบน้ำมะนาวลงไปในระหว่างการชงชานั่นเอง


make matcha by using microwave

make matcha by using microwave

มีการศึกษาทดลองชงชาเขียวด้วยไมโครเวฟ 1 นาที ความร้อน 400 วัตต์ เพื่อแยกคาเทชินออกจากชาเขียว เทียบกับการชงด้วยการให้ความร้อนจากกาต้มน้ำแบบเดิม ที่ทำให้ชาเขียวมีอุณหภูมิอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 30 นาที พบว่าชาเขียวในไมโครเวฟมีคาเทชินในระดับที่สูงกว่าการให้ความร้อนแบบใช้กาต้มน้ำแบบเดิม

ในการศึกษาทดลอง ยังพบอีกว่าการใช้ไมโครเวฟ จะสามารถรสกัดคาเทชินและโพลีฟีนอลได้ในในระดับที่สูงขึ้น ทำให้ชาเขียวมีรสชาติหวานกว่ามีสีสันกว่า และยังสามารถสกัดคาเทชินได้ประมาณ 80% และคาเฟอีน 92% อีกด้วย

ดังนั้นวิธีชงชาเขียวด้วยไมโครเวฟที่แนะนำ คือทำโดยการใส่ใบชาเขียวลงในถ้วยที่ใช้กับไมโครเวฟแล้วเติมน้ำ นำเข้าไมโครเวฟให้ความร้อนที่ 400W ถึง 500W ประมาณ 1 นาที นำกากใบชาออก เป็นอันเรียบร้อย

การชงชาทั้งชาใบและผงชาเขียว จึงสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความชอบ และจุดประสงค์ในการดื่มชาของแต่ละคน บางคนดื่มเพื่อความสุนทรียะ จะนิยมชงด้วยกาต้มน้ำ หรือ ชงด้วยฉะเซ็น แต่ถ้าคนที่ต้องการความสะดวก เร่งรีบ แน่นอนว่าการใช้ไมโครเวฟเป็นทางเลือกที่ดี

make matcha by using microwave

ที่มา

https://www.japanesegreenteain.com/blogs/green-tea-and-health/is-using-the-microwave-good-for-green-tea

บทความจากFuwafuwa

การเขียน SOP ของเมนูชาที่ร้านสำคัญไฉน

SOP หรือที่เรียกว่า (Standard Operation Procedure) เป็นขั้นตอนการทำงานอย่างละเอียดตั้งแต่เริ่มต้นเปิดร้านจนสิ้นสุดกระบวนการทำงาน หรือพูดง่าย ๆ คือคู่มือในการทำงานนั้นเอง หลายร้านไม่ได้ทำตัวนี้ขึ้นมาเพราะคิดว่าไม่จำเป็น จนพบเจอปัญหาตามมาทีหลัง เช่น รสชาติชาแต่ละแก้วไม่เหมือนกัน การจัดตกแต่งแก้วพร้อมเสิร์ฟหน้าตาไม่เหมือนกัน รวมไปถึงปัญหาที่เกิดจากการเก็บรักษาอุปกรณ์ไม่ดี ดังนั้น SOP จึงเป็นสิ่งสำคัญขั้นพื้นฐานที่ใครที่จะเปิดร้านไม่ว่าจะขนาดเล็ก หรือเป็นคาเฟ่ ควรมีไว้ที่ร้าน เพราะไม่ว่าจะเปลี่ยนพนักงานไปกี่คน สูตรและวิธีการเสิร์ฟเครื่องดื่มของที่ร้านจะเป็นในรูปแบบเดียวกัน ซึ่ง SOP ที่ร้านขายชาควรเขียนไม่ได้มีแค่เพียงสูตรวิธีการชงชาเท่านั้น มาเช็คลิสต์กันว่า SOP ที่ดีควรประกอบด้วยอะไรบ้าง

SOP Matcha

เนื้อหาที่ดีควรประกอบไปด้วย ข้อกำหนดพนักงานร้านในการเข้างานก่อนการปฏิบัติงาน ขั้นตอนหน้าร้านที่ไม่ซับซ้อนมากนับตั้งแต่การเตรียมเปิดร้าน การจัดเตรียมวัตถุดิบ การปรุงตกแต่งเมนู ซึ่งในสูตรของการชงเครื่องดื่ม หรือการทำขนมทุกครั้ง อย่าลืมที่จะระบุหน่วยของวัตถุดิบอย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดความเข้าใจผิดได้

SOP Matcha

อย่างการชงมัทฉะ นอกจากจะระบุส่วนผสมแล้ว การบอกลำดับการใส่ส่วนผสมแต่ละชนิดก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน รวมไปถึงขั้นตอนการเทลงแก้วเพราะจะส่งผลต่อหน้าตาของเนูเครื่องดื่มนั้นๆการเทนมก่อนหรือหลัง ก็ทำใ้สีของเครื่องดื่มแก้วนั้นหน้าตาต่างกันไป รวมไปถึงการใส่น้ำแข็งก่อนหรือหลังเทชาเขียวลงไปก็ส่งผลต่อปริมาณที่ไม่เท่ากัน

SOP Matcha

นอกจากเรื่องขั้นตอนการชงที่ควรระบุให้ละเอียดแล้ว การระบุถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการชงอย่างเช่นตีฟองนม ด้วยเครื่องตีฟองนม หรือตีผงชาด้วยฉะเซน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ก็อาจจะมีคนที่ไม่มีพื้นความรู้ด้านการชงเครื่องดื่มมาก่อนเข้าใจผิดได้ ดังนั้นการมี SOP ติดร้านไว้จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการที่จะทำให้เกิดมาตรฐานเดียวกันกับพนักงานทุกคน และช่วยประหยัดเวลาในการเทรนด์พนักงานได้

SOP MatchaSOP MatchaSOP Matcha

อีกหัวข้อที่ไม่ควรพลาดในการใส่ลงไปใน SOP คือ การดูแลรักษาความสะอาดและการจัดเก็บอุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆภายในร้าน ว่าผงชาควรเก็บอย่างไร ฉะเซ็นใช้แล้วต้องทำอย่างไร รวมไปถึงการปิดร้านว่ามีขั้นตอนการสรุปยอดขายอย่างไร เรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ดูเหมือนจะไม่มีความจำเป็นถึงขนาดที่ต้องทำเป็นคู่มือขึ้นมา แต่หากมีติดร้านไว้ได้ก็จะเป็นประโยชน์กับทุกๆฝ่าย

ซึ่งวิธีการเขียน SOP สามารถทำได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่ Flow Chart หรือมีภาพจริงประกอบ หรือเป็น Text ก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าแบบไหนจะทำให้ทีมงานอ่านแล้วเข้าใจง่ายที่สุด เพราะการเขียน SOP มีไว้เพื่อให้เป็นมีมาตรฐานเดียวกันและสอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจ นอกจากนี้ SOP ยังช่วยรักษาความปลอดภัยในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานและธุรกิจได้อีกด้วย

ดังนั้นก่อนเริ่มเขียน SOP งานในแต่ละส่วน จึงควรลิสต์ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง  ใครเป็นผู้เกี่ยวข้อง ณ หน้างานนั้น ๆ บ้าง จากนั้นกำหนดขอบเขตเพื่อลงรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนให้รัดกุม และอย่าลืมที่จะเอามาพัฒนาปรับปรุงให้ทันสมัยเสมอ

ประโยชน์ของการมี SOP ในร้านอาหารของคุณ

  1. ลดระยะเวลาการเรียนรู้และฝึกอบรมสำหรับพนักงานใหม่
  2. มั่นใจในความต่อเนื่องของธุรกิจ
  3. กระบวนการที่ได้มาตรฐาน
  4. มั่นใจได้ว่าลูกค้าของคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด

ดังนั้นการมี SOP เอกสารที่ไม่ใช่แค่ร้านอาารที่ควรมี แต่ร้านชา ร้านขนม ก็ควรทำไว้เพื่อให้การให้บริการลูกค้าเป็นไปในระดับมาตรฐานเดียวกัน

ที่มา https://www.etsy.com/listing/866889191/unique-glass-matcha-bowl-set-with-spout

บทความจากFuwafuwa