Iced Matcha Latte มัทฉะลาเต้เย็น

เปลี่ยนชาเขียวเย็นให้กลายเป็นพรีเมียมมัทฉะลาเต้ เมนูยอดฮิตของร้านที่อร่อยจนต้องบอกต่อ!!

ผงมัทฉะคุณภาพดีจะให้สีเขียวที่สวยงาม เมื่อเทราดลงบนนมสดจะเห็นเป็นชั้นสีเขียวมรกต ค่อยๆซึมลงมาด้านล่างซึ่งวิธีทำก็ไม่ยาก ยิ่งถ้ามีอุปกรณ์ช่วยจะใช้เวลาชงไม่นานเลย เราไปดูวัตถุดิบและวิธีชงกันเลยดีกว่าครับ ^^

อุปกรณ์ช่วยละลาย

วัตถุดิบสำหรับแก้ว 16 Oz.

  1. ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Excellent           3  กรัม (~1.5 ช้อนชา)
  2. น้ำอุ่น                                                40   ml
  3. นมสด                                              150   ml
  4. น้ำเชื่อม                                              10   ml (~2 ช้อนชา)
  5. น้ำแข็ง

ขั้นตอนการชง

1. ละลายผงมัทฉะให้เข้ากับน้ำอุ่น โดยการร่อนผงมัทฉะผ่านกระชอนใส่ถ้วยหรือชาม แล้วค่อยเทน้ำอุ่นตามลงไปแล้วใช้ Chasen หรือเครื่องตีฟองนม ตีให้ผงชาละลายเข้ากับน้ำ แล้วพักเอาไว้

2. เติมน้ำแข็งใส่แก้วอีกใบ

3. เติมน้ำเชื่อมตามความหวานที่ต้องการ

4. เทนมสดลงไป คนให้เข้ากับน้ำเชื่อม

5. ราดมัทฉะที่ละลายน้ำไว้แล้วลงบนนมสดอีกที

หรือสามารถดู VDO วิธีชงได้ที่นี่ครับ ^^

*** ถ้าไม่มีอุปกรณ์ช่วยละลายให้ลองใช้วิธีนี้ดูนะครับ

1. ใส่ผงชาเขียวมัทฉะกับน้ำตาลทรายลงไปในถ้วย
2. เอียงถ้วยแล้วใช้ช้อนบดส่วนผสมให้เกร็ดน้ำตาลไปบดผงชาเขียวมัทฉะ จนแตกตัวไม่จับเป็นก้อน
3. ค่อยๆเติมน้ำอุ่นลงไป เอียงถ้วยแล้วใช้ช้อนบดผงชาเขียวมัทฉะกับข้างถ้วย คนจนละลายหมด

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
マッチャラブユー

การเขียน SOP ของเมนูชาที่ร้านสำคัญไฉน

SOP หรือที่เรียกว่า (Standard Operation Procedure) เป็นขั้นตอนการทำงานอย่างละเอียดตั้งแต่เริ่มต้นเปิดร้านจนสิ้นสุดกระบวนการทำงาน หรือพูดง่าย ๆ คือคู่มือในการทำงานนั้นเอง หลายร้านไม่ได้ทำตัวนี้ขึ้นมาเพราะคิดว่าไม่จำเป็น จนพบเจอปัญหาตามมาทีหลัง เช่น รสชาติชาแต่ละแก้วไม่เหมือนกัน การจัดตกแต่งแก้วพร้อมเสิร์ฟหน้าตาไม่เหมือนกัน รวมไปถึงปัญหาที่เกิดจากการเก็บรักษาอุปกรณ์ไม่ดี ดังนั้น SOP จึงเป็นสิ่งสำคัญขั้นพื้นฐานที่ใครที่จะเปิดร้านไม่ว่าจะขนาดเล็ก หรือเป็นคาเฟ่ ควรมีไว้ที่ร้าน เพราะไม่ว่าจะเปลี่ยนพนักงานไปกี่คน สูตรและวิธีการเสิร์ฟเครื่องดื่มของที่ร้านจะเป็นในรูปแบบเดียวกัน ซึ่ง SOP ที่ร้านขายชาควรเขียนไม่ได้มีแค่เพียงสูตรวิธีการชงชาเท่านั้น มาเช็คลิสต์กันว่า SOP ที่ดีควรประกอบด้วยอะไรบ้าง

SOP Matcha

เนื้อหาที่ดีควรประกอบไปด้วย ข้อกำหนดพนักงานร้านในการเข้างานก่อนการปฏิบัติงาน ขั้นตอนหน้าร้านที่ไม่ซับซ้อนมากนับตั้งแต่การเตรียมเปิดร้าน การจัดเตรียมวัตถุดิบ การปรุงตกแต่งเมนู ซึ่งในสูตรของการชงเครื่องดื่ม หรือการทำขนมทุกครั้ง อย่าลืมที่จะระบุหน่วยของวัตถุดิบอย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดความเข้าใจผิดได้

SOP Matcha

อย่างการชงมัทฉะ นอกจากจะระบุส่วนผสมแล้ว การบอกลำดับการใส่ส่วนผสมแต่ละชนิดก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน รวมไปถึงขั้นตอนการเทลงแก้วเพราะจะส่งผลต่อหน้าตาของเนูเครื่องดื่มนั้นๆการเทนมก่อนหรือหลัง ก็ทำใ้สีของเครื่องดื่มแก้วนั้นหน้าตาต่างกันไป รวมไปถึงการใส่น้ำแข็งก่อนหรือหลังเทชาเขียวลงไปก็ส่งผลต่อปริมาณที่ไม่เท่ากัน

SOP Matcha

นอกจากเรื่องขั้นตอนการชงที่ควรระบุให้ละเอียดแล้ว การระบุถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการชงอย่างเช่นตีฟองนม ด้วยเครื่องตีฟองนม หรือตีผงชาด้วยฉะเซน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ก็อาจจะมีคนที่ไม่มีพื้นความรู้ด้านการชงเครื่องดื่มมาก่อนเข้าใจผิดได้ ดังนั้นการมี SOP ติดร้านไว้จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการที่จะทำให้เกิดมาตรฐานเดียวกันกับพนักงานทุกคน และช่วยประหยัดเวลาในการเทรนด์พนักงานได้

SOP MatchaSOP MatchaSOP Matcha

อีกหัวข้อที่ไม่ควรพลาดในการใส่ลงไปใน SOP คือ การดูแลรักษาความสะอาดและการจัดเก็บอุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆภายในร้าน ว่าผงชาควรเก็บอย่างไร ฉะเซ็นใช้แล้วต้องทำอย่างไร รวมไปถึงการปิดร้านว่ามีขั้นตอนการสรุปยอดขายอย่างไร เรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ดูเหมือนจะไม่มีความจำเป็นถึงขนาดที่ต้องทำเป็นคู่มือขึ้นมา แต่หากมีติดร้านไว้ได้ก็จะเป็นประโยชน์กับทุกๆฝ่าย

ซึ่งวิธีการเขียน SOP สามารถทำได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่ Flow Chart หรือมีภาพจริงประกอบ หรือเป็น Text ก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าแบบไหนจะทำให้ทีมงานอ่านแล้วเข้าใจง่ายที่สุด เพราะการเขียน SOP มีไว้เพื่อให้เป็นมีมาตรฐานเดียวกันและสอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจ นอกจากนี้ SOP ยังช่วยรักษาความปลอดภัยในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานและธุรกิจได้อีกด้วย

ดังนั้นก่อนเริ่มเขียน SOP งานในแต่ละส่วน จึงควรลิสต์ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง  ใครเป็นผู้เกี่ยวข้อง ณ หน้างานนั้น ๆ บ้าง จากนั้นกำหนดขอบเขตเพื่อลงรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนให้รัดกุม และอย่าลืมที่จะเอามาพัฒนาปรับปรุงให้ทันสมัยเสมอ

ประโยชน์ของการมี SOP ในร้านอาหารของคุณ

  1. ลดระยะเวลาการเรียนรู้และฝึกอบรมสำหรับพนักงานใหม่
  2. มั่นใจในความต่อเนื่องของธุรกิจ
  3. กระบวนการที่ได้มาตรฐาน
  4. มั่นใจได้ว่าลูกค้าของคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด

ดังนั้นการมี SOP เอกสารที่ไม่ใช่แค่ร้านอาารที่ควรมี แต่ร้านชา ร้านขนม ก็ควรทำไว้เพื่อให้การให้บริการลูกค้าเป็นไปในระดับมาตรฐานเดียวกัน

ที่มา https://www.etsy.com/listing/866889191/unique-glass-matcha-bowl-set-with-spout

บทความจากFuwafuwa

บิงซู&คากิโกริชาเขียว อร่อยได้ง่ายๆที่บ้าน

เชื่อว่าพอเข้าหน้าร้อน ขนมที่ทุกคนต้องนึกถึงคงหนีไม่พ้น น้ำแข็งใส หรือในภาษาญี่ปุ่น ที่เรียกว่า คากิโกริ ซึ่งกล่าวกันว่า การกินน้ำแข็งไสมีมาตั้งแต่สมัยเฮอัน (Heian Period) โดยในสมัยนั้นจะเอาน้ำแข็งก้อนที่ได้จากธรรมชาติมาฝนด้วยมีดและเหล็กจนกลายเป็นเกล็ด แล้วนำมากินคู่กับน้ำหวานจากผลไม้และดอกไม้ ซึ่งลักษณะเด่นของคากิโกริ คือ เกล็ดน้ำแข็งของคากิโกริจะมีความละเอียดนุ่ม ส่วนใหญ่จะไม่มีรสชาติ แต่จะเน้นการเติมนมหรือไซรัปรสชาติต่างๆ เพื่อให้มีความหวานหอมจัดจนทั่ว ด้านบนนิยมเป็นครีมรสชาติต่างๆ ตกแต่งด้วยผลไม้สด หรือเผือกกวน ถั่วกวน ส่วนข้างในก็จะมีไส้ความอร่อยซุกซ่อนอยู่ตามแต่จะครีเอต ราดด้วยซอสรสต่างๆ มาเพิ่มรสชาติ

ส่วนบิงซูของชาวเกาหลีที่ได้รับวัฒนธรรมการกินจากชาวญี่ปุ่น คือ น้ำแข็งไส ที่มีลักษณะเด่นๆ คือ ต้องมี 3 ส่วนผสมหลัก ได้แก่ ถั่วแดง แป้งต๊อก (เค้กข้าวเกาหลีสีขาวเหนียวๆ ) และผงแป้งที่ทำจากถั่วและธัญพืช นับเป็นขนมหวานเย็นเพื่อสุขภาพของชาวเกาหลี บิงซู จะมีลักษณะเป็นเกล็ดน้ำแข็งนุ่มคล้ายปุยหิมะขาวโพลนไม่ต่างกัน อาจจะมีการทำน้ำแข็งให้เป็นรสชาติต่างๆบ้าง รสชาติน้ำแข็งจะมีรสหวานนมอ่อนกว่า เพราะต้องกินกับท็อปปิ้งนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นซอสนมข้น ผลไม้สด ไอศกรีม ชีส ครีมสด ผงแป้งหลากรสชาติ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “แป้งต๊อก” ที่ต้องซ่อนอยู่ ร่วมด้วย ส่วนซอสก็มีนมให้ราดด้วยเหมือนกัน หรืออาจจะเป็นน้ำเชื่อมรสต่างๆ น้ำผลไม้ เรื่อยไปจนถึงค็อกเทล

หากจะเทียบกันชัดๆก็คากิโกริดูเรียบง่ายคล้ายกับภูเขาขนาดย่อมที่ซ่อนความอร่อยหอมหวาน ขณะที่บิงซูจะมีความวาไรตี้และไร้แบบแผน นั่นเอง หากใครที่ชอบกินชาเขียว แน่นอนว่าคากิโกริ และบิงซูชาเขียวต้องเป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากลองทำทานเอง วิธีทำแค่เพียง ผสมผงมัทฉะ 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาล 50 กรัมให้เข้ากันในภาชนะ เทน้ำร้อนตามลงไป 60 ml. และตีให้เข้ากัน เตรียมน้ำแข็งใสที่ปั่นจากเครื่องให้พร้อม และราดมัทฉะไซรัปลงไปได้เลย ตกแต่งได้ตามใจชอบเลย ว่าจะเสิร์ฟคู่กับแป้งต็อกราดนมสไตล์บิงซู หรือถ้าสไตล์ญี่ปุ่นต้องเสิร์ฟคู่ถั่วแดง โมจิ และไอศครีมรสชาเขียว จะเข้ากันดีที่สุด

อีกสูตรที่แนะนำให้ลองเป็นคากิโกริชาเขียวทีรามิสุ ที่ชงชาเขียวลาเต้แบบปกติก่อน แล้วนำไปเทลงแม่พิมพ์น้ำแข็ง แช่จนแข็งดี ผสมครีมมัทฉะทีรามิสุโดยเท ชีสมาสคาโปน 100 กรัม + ผงชาเขียวมัทฉะ 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ + ครีมสด 100 มล แล้วใช้ตะกร้อคนให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำน้ำแข็งชาเขียวลาเต้ที่ทำไว้ออกมาเข้าเครื่องบดน้ำแข็ง ใส่ชามให้เรียบร้อย จึงค่อยราดด้วยครีมชาเขียวทีรามิสุ ตกแต่งด้วยผงมัทฉะ หรือเสิร์ฟคู่กับผลไม้สดก็อร่อยตัดรสกันได้ดี

ลองทำทานดูที่บ้านแล้วเปลี่ยนท้อปปิ้งที่ทานคู่กับน้ำแข็งไสชาเขียวไปเรื่อยๆ อาจจะเป็นขนมปังบ้าง ไอศครีม โยคัง วาราบิโมจิหรือ ขนมประเภทต่างๆ ก็อาจจะเจอรสชาติใหม่ที่ลงตัว

ที่มา 

trip.kyoto.jp

reddit.com

fashion-press.net

letempsduthe.fr

บทความจาก : Fuwafuwa

คุณค่าทางสารอาหาร “เซนฉะ vs มัทฉะ”

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง แต่อย่างไรก็ตามชาเขียวก็มีหลายแบบ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงคิดว่า ผงมัทฉะ เป็นชาประเภทที่คุณประโยชน์น้อยมาก หากดื่มชา จึงมักจะเลือกดื่มที่เป็นชาใบมากกว่าผงชา แต่ในความเป็นจริงแล้วผงมัทฉะ ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่แพ้กัน เพราะผงมัทฉะ เป็นยอดชาที่ถูกนำเข้าสู่โรงอบไอน้ำโดยเร็วที่สุดเพื่อหยุดกระบวนการออกซิเดชั่น เป็นการรักษาปริมาณสารคาเทซินในใบชาให้คงอยู่ไว้มากที่สุด แล้วนำใบชาแห้งจากการอบ เข้าสู่กระบวนการร่อนเพื่อคัดกิ่งและก้านออกจนหมด ก่อนจะนำไปบดด้วยเครื่องโม่ที่ทำจากหินชนิดพิเศษที่ทำเพื่อการบดมัทฉะโดยเฉพาะนั่นเอง

เดิมทีแล้วมัทฉะเป็นเครื่องดื่มล้ำค่าและมีคุณค่าสูง ซึ่งในอดีตมัทฉะจะถูกสงวนไว้เฉพาะสมเด็จพระจักรพรรดิ ราชวงศ์ และขุนนางชั้นสูงเท่านั้น แม้ในปัจจุบันการดื่มมัทฉะจะแพร่หลายไปทั้งประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก ความพิถีพิถันทุกขั้นตอนก็ยังคงอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย การเก็บมัทฉะเก็บเกี่ยวได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น โดยคัดเลือกจากแปลงชาที่สมบูรณ์ที่สุด เมื่อใบชาเริ่มแตกยอด ก่อนจะเก็บเกี่ยว 1 เดือน จะต้องใช้ผ้าสีดำคลุมไว้ทั้งแปลง เพื่อให้สารอาหารที่รากถูกดูดซึมขึ้นมาเก็บกักไว้ที่ใบอ่อน 3 ใบแรก จากนั้นกระบวนการเก็บยอดชา ต้องเก็บด้วยมือโดยผู้ชำนาญที่มีประสบการณ์เท่านั้น และเลือกเฉพาะยอดอ่อนที่สมบูรณ์ 3 ใบแรก ต้องไม่ปนเปื้อนกับส่วนอื่นการเก็บเกี่ยวต้องทำให้เสร็จสิ้นก่อนแสงแรกแห่งอรุณรุ่งจะมาเยือน

Matcha

เซนฉะแม้จะเกิดจากต้นชาชนิดเดียวกับมัทฉะ แตกต่างกันที่เซนฉะจะปลูกกลางแจ้งตลอดปี ไม่มีการคลุมด้วยผ้าสีดำ เซนฉะจะเก็บเกี่ยวได้ปีละ 4 ครั้ง โดยใช้กรรไกรตัดยอดต้นชา จากนั้นนำมาเป่าให้แห้ง สลับกับปั่นใบชาให้เป็นเกลียว จนได้ใบชาที่แห้งพอเหมาะพอดี ที่ให้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมกำลังดี ซึ่งการดื่มเซนฉะ จะนำใบชาแห้งใส่น้ำร้อน รอสักครู่จนน้ำชามีสีเข้มตามต้องการ จึงรินน้ำชามาดื่ม คุณค่าสารอาหารที่ได้จากเซนฉะจึงมาจากการที่ใบชาละลายในน้ำ ต่างจากมัทฉะที่เป็นการดื่มชาจากผงที่บดทั้งใบ ชาชนิดนี้จะมีลักษณะพิเศษ คือ มีสารคาเทชิน (catechin) หรือสารต้านอนุมูลอิสระหลงเหลืออยู่มาก ซึ่งสารคาเทชินที่มีในเซนฉะจะช่วยลดระดับการดูดซึมไขมันและเป็นส่วนประกอบที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ร่างกาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เซนฉะนั้นเป็นหนึ่งในชาที่นิยมดื่มกันในหมู่ผู้รักสุขภาพนั่นเอง

Gencha

ว่าด้วยเรื่องปริมาณคาเฟอีนของชาเขียวมัทฉะและเซนฉะ

เนื่องจากวิธีการปลูกของชาแต่ละชนิดแตกต่างกันจึงมีคาเฟอีนในระดับที่แตกต่างกัน ชามัทฉะที่ปลูกในสภาพที่ร่มรื่นจะมีคาเฟอีนมากกว่า แต่มัทฉะปกติหนึ่งถ้วยมีคาเฟอีนประมาณ 70 มก. ซึ่งต่ำกว่ากาแฟขนาดเดียวกันเล็กน้อย (ขึ้นอยู่กับเมล็ดกาแฟที่ใช้) ส่วนชาเซนฉะ มีคาเฟอีนระหว่าง 20-30 มก. ต่อถ้วยขึ้นอยู่กับคุณภาพของใบชาและระยะเวลาที่อนุญาตให้ชง หากใครที่ต้องการลดปริมาณคาเฟอีนในร่างกาย ชาเซนฉะจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเนื่องจากมีคาเฟอีนน้อยกว่ามัทฉะประมาณ 40 มก.

Matcha

ชาเขียวมัทฉะและเซนฉะ สารต้านอนุมูลอิสระตัวไหนสูงกว่ากัน?

โดยทั่วไปชาเขียวถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ควรบริโภค ซึ่งทั้ง2 ชนิด อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่

โพลีฟีนอล :สารอาหารขนาดเล็กที่เชื่อว่าช่วยเรื่องการย่อยอาหารช่วยในการควบคุมน้ำหนักและช่วยปรับปรุงสภาวะต่างๆรวมถึงโรคเบาหวานและโรคหัวใจและหลอดเลือด

Catechins:เป็นโพลีฟีนอลชนิดหนึ่งและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่งที่สุดที่พบในชาเขียวซึ่งสามารถช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ งานวิจัยบางชิ้นรายงานว่าคาเทชินมีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็ง

L-theanine: กรดอะมิโนที่ช่วยในการผ่อนคลาย ช่วยลดระดับความวิตกกังวลได้

แม้ว่าชาเซนฉะ ขึ้นชื่อว่าเป็นชาที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างมาก มีประโยชน์ในการลดระดับคอเลสเตอรอลสูงและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต แต่ก็ยังถือว่ามีปริมาณที่น้อยกว่าผงมัทฉะ เนื่องจากการดื่มชาจากผงมัทฉะ คือ การที่บริโภคทั้งใบจึงได้รับสารอาหารมากที่สุด การดื่มเซนฉะในรูปแบบผงจะทำให้คุณได้รับสารอาหารมากขึ้นจากรูปใบเช่นกัน

นอกจากนี้เซนฉะยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเซนฉะยังมีปริมาณ vitamin C และ vitamin E ที่มากกว่าผงมัทฉะ

แต่ในทางกลับกัน ผงมัทฉะ มี vitamin B6 และ beta-carotene ที่มากกว่าชาเซนฉะ จะเห็นว่าทั้ง 2 ชนิดมีคุณค่าทางสารอาหารที่เหมือนกัน ต่างกันแค่ปริมาณที่ได้รับ ดังนั้นการดื่มชาชนิดใดก็ตามถือว่าดีต่อสุขภาพ

Matcha

ที่มา

http://inthemakingbybelen.com

http://www.skinnymetea.com.au

https://www.pinterest.com/pin/405605510171042632/

บทความจาก : Fuwafuwa

รับลมหนาว กับไอเดียเมนูชาอุ่นๆ

ลมเย็นๆเริ่มพัดมา การได้ดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆสักแก้ว จะยิ่งช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แต่เมนูชาเขียวแบบเดิมๆอย่างมัทฉะลาเต้ ก็คงน่าเบื่อไปสำหรับช่วงสิ้นปีที่ทุกคนจะสนุกสนานกับการทานของอร่อยๆ มาดูเมนูชาอุ่นๆ สไตล์คนเลิฟมัทฉะกันว่ามีเมนูไหนน่าลองไปทำที่ร้านบ้าง

Hot Cinnamon Buttered Matcha

Hot Cinnamon Buttered Matcha เมนูที่คิดไม่ถึงว่าการเติมผงซินนาม่อนลงไปในชาเขียวจะเข้ากันอย่างเหลือเชื่อ เพียงนำผงชาเขียว ½ ช้อนชา + ผงซินนาม่อน ½ ช้อนชา + เนย 2 ช้อนชา เติมความหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว2 ช้อนชา ปั่นรวมกันในน้ำอุ่น 8 ออนซ์ เพียงเท่นี้ก็ได้เครื่องดื่มหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของซินนาม่อนไว้ทานรับเช้าวันใหม่

Matcha-Honey Hot Chocolate

Matcha-Honey Hot Chocolate เริ่มจากอุ่นนม 2 ถ้วยก่อน แล้วใส่ไวท์ช็อคโกแลตสับลงไป ½ ถ้วย พอไวท์ช็อคโกแลตละลายให้เติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา + ผงมัทฉะ 1 ช้อนชา + เกลือ 1 ช้อนชาคนให้เข้ากัน สามารถเพิ่มท้อปปิ้งด้วยมาชแมลโลว์ได้

Matcha Latte

Lavender Matcha Latte ที่นำลาเวนเดอร์อบแห้งมาต้มในน้ำก่อนประมาณ 5 นาที แล้วช้อนตัวดอกลาเวนเดอร์ออก เติมน้ำผึ่ง2 ช้อนชา +ผงมัทฉะ 2 ช้อนชา ลงไปในน้ำต้มข้างต้น ตีผงมัทฉะให้ละลาย หลังจากนั้น เติมนมอุ่นลงไป 2 ถ้วย คนให้เข้ากัน แล้วตกแต่งก่อนเสิร์ฟด้วยดอกลาเวนเดอร์อบแห้งเล็กน้อย ช่างเป็นเครื่องดื่มที่ได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นสมัยใหม่จริงๆ

อีกเมนูชาดอกไม้ที่สาวๆชื่นชอบอย่างMatcha Rose Latte ที่เปลี่ยนจากดอกลาเวนเดอร์ เป็นดอกกุหลายแทน ก็จะช่วยให้ได้กลิ่นที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็เพิ่มรสชาติปลยลิ้นด้วยการโรยผงซินนาม่อนเล็กน้อยบนชาเขียวกุหลายก่อนเสิร์ฟ

Matcha Latte

Earl Grey Matcha Latte เมนูชาอุ่นๆที่ได้จากชาเอิร์ลเกรย์ 2 ถุงต้มในน้ำประมาณ 5-8 นาที แล้วเติมผงมัทฉะลงไป ½ ช้อนชา + ผงซินนาม่อนอีก เล็กน้อย +ครีมเทียม 1 ช้อนโต๊ะ ผสมรวมให้เข้ากัน เป็นอันเรียบร้อย ได้ชาเขียวสไตล์ใหม่ ที่มีกลิ่นอายแบบอังกฤษ

Matcha Cocoa Matcha Cocoa

อีกเมนูชาอุ่นๆที่ได้ส่วนผสมหลักอย่างผงโกโก้ มาช่วยเสริมรสชาติ อย่งเมนู Matcha Cocoa ที่นำผงมัทฉะ 1 ½ ช้อนชา ผสมรวมกันกับ ผงโกโก้ 1 ช้อนชา ในน้ำอุณหภูมิประมาณ 70 องศา 5 ช้อนชาตีผสมให้เข้ากัน แล้วเติมเกลือเล็กน้อย กับเมเปิ้ลไซรัป 1 ช้อนชา กลิ่นวานิลลาเล็กน้อย จึงค่อยเติมนม ¾ ถ้วย ที่อุ่นร้อน ลงไป เป็นอันเรียบร้อย บางคนก็จะเสิร์ฟพร้อมวิปครีม เพื่อสร้างรสชาติมันๆให้ชาเขียวโกโก้แก้วนี้อีกเสต็ป

Lemon Matcha Latte Lemon Matcha Latte

ยังมีอีกหลากหลายเมนูอุ่นๆที่ใช้ผงมัทฉะมารังสรรค์ความอร่อยที่ไม่ซ้ำใครได้ เช่นCaramel Apple Matcha Latte หรือจะเป็น Lemon Matcha Latte หรือถ้าใครชอบแบบเครื่องดื่มเย็นๆ แนะนำให้ลองทำดื่มกันนะค้า^^

ที่มา

https://tealish.com/blogs/blog/caramel-apple-matcha-latte-recipe

https://www.butteredsideupblog.com/

https://foodbymars.com/matcha-rose-latte-dairy-free-refined-sugar-free/

https://awhiskandtwowands.com/matcha-mocha/

https://mylifecookbook.com

https://www.ohhowcivilized.com

บทความจาก : Fuwafuwa

ยืดอายุวัตถุดิบในร้าน ด้วยการทำ Matcha Chocolate

เคยสงสัยกันมั้ยว่า ช็อคโกแลตมีวันหมดอายุมั้ย ทำไมถึงเก็บได้นานกว่าขนมชนิดอื่นๆ???

ช็อคโกแลต เป็นของหวานที่อยู่ได้นาน เพราะทำมาจาก เนยโกโก้ถูกนำมาใช้เพื่อให้ขนมหวานสีน้ำตาลนี้อยู่ได้นานเป็นปี เพียงแค่แช่ตู้เย็นรักษาอุณหภูมิเอาไว้ ไม่เพียงเท่านั้น เนยโกโก้ยังถูกนำมาใช้กับโลชันทาผิวและทาหน้า เพื่อให้มันสามารถอยู่ได้นานเป็นปีอีกด้วย เนยโกโก้ไม่ได้มีดีเพียงเท่านั้น มันยังมีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถแข็งตัวเมื่ออุณหภูมิพอเหมาะ และละลายได้เมื่ออยู่ในอุณหภูมิร่างกายประมาณ 34 องศาขึ้นไป นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ช็อกโกแลตละลายในปากนั่นเอง

ด้วยความที่เก็บรักษาได้ยาวนาน จึงทำให้บางครั้งมีคราบขาวๆบริเวณผิวช็อคโกแลตได้ แต่นั่นเป็นเพียงไขมันที่ละลายแล้วขึ้นไปเกาะที่ผิวหน้าช็อกโกแลต ไม่ใช่เชื้อราแต่อย่างใด

ด้วยลักษณะพิเศษของช็อคโกแลตที่เก็บได้นานจึงเป็นขนมที่เหมาะสำหรับการใช้ช่วยแปรสภาพวัตถุดิบในร้านที่อาจจะซื้อมาสต็อกไว้มากเกินไป จนระบายไม่ทัน และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบที่มีอยู่ให้เป็นขนมรูปแบบใหม่ที่น่าทานมากกว่าเดิม ด้วยการทำช็อคโกแลตชาเขียวนั่นเอง

Two - tone Matcha Chocolate

Two – tone Matcha Chocolate เมนูช็อคโกแลตชาเขียวแสนง่าย 2 สี ขนาดพอดีคำ

  1. ละลายเนยโกโก้ 100 กรัม ค่อยๆเติมน้ำผึ้งลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ในขณะที่ช็อคโกแลตยังอุ่นอยู่
  2. ยกออกจากเตา แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกเติมผงมัทฉะ 1 ช้อนชา เกลือเล็กน้อย และกลิ่นวนิลา คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  3. เทใส่พิมพ์ตามขนาดและรูปร่างที่ต้องการ เข้าช่องฟรีซ 10 นาที
  4. ส่วนช็อคโกแลตที่แบ่งทิ้งไว้อีกส่วนให้เติมผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน แล้วเทใส่พิมพ์ในข้อ 3 ที่เซ็ตตัวแล้ว แล้วนำเข้าช่องฟรีซอีกครั้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

Matcha Nama Chocolate Matcha Nama Chocolate 1

อีกเมนูช็อคโกลต ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมทานกัน จะเป็นMatcha Nama Chocolate ด้วยการละลายไวท์ช็อคโกแลต 200 กรัม ให้ละลายเกือบหมด เติมผงมัทฉะ 12 กรัม ( และผงซากุระ  2 กรัม เพื่อให้ได้รสและกลิ่นของซากุระปนอยู่เล็กน้อย )  + เนยจืด 20 กรัม + วิปปิ้งครีม 70 กรัมคนให้เข้ากัน แล้วเทใส่พิมพ์ที่รองกระดาษรองอบไว้แล้ว นำไปแช่ตู้เย็น 4-5 ชั่วโมงจนเริ่มเซ็ตตัว เอาออกมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ โรยผงชาเขียวด้านบนเล็กน้อย และตกแต่งด้วยราสเบอรี่อบแห้งชิ้นเล็กๆ หรือแปะด้วยดอกซากุระด้านบนให้เข้ากับเทศกาลก้ได้

Strawberry Matcha Chocolate Bark  ช็อคโกแลตชาเขียวสีสันสดใสด้วยสตอเบอรี่อบแห้งและ ไวท์ช็อคโกแลต วิธีทำคือ

  1. ละลายไวท์ช็อคโกแลต 280 กรัม แล้วแบ่งออกมาใส่ถ้วยเล็ก ⅓ ของส่วนผสมที่ได้ แล้วเอาส่วนที่เหลือ ใส่ผงมัทฉะลงไป 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน พยายามรีบคนในขณะที่ช็อคโกแลตยังอุ่นๆเพื่อให้ผงมัทฉะละลายได้ง่ายขึ้น
  2. เทช็อคโกแลตลงไปบนกระดาษรองอบ ใช้ตะเกียบ หรือ สเครปเปอร์ เกลี่ยใ้ห้บางเท่ากันทั้งแผ่น
  3. เทไวท์ช็อคโกแลตที่แบ่งไว้ เป็นหย่อมๆลงบนช็อคโกแลตชาเขียวในข้อ 2 ใช้ไม้จิ้มฟันหมุนวนไปมาให้เกิดลายบนช็อคโกแลตตามภาพ
  4. โรยผลไม้อบแห้งเช่น สตอเอบรี่ ราสเบอรี่ลงไปให้ทั่วๆ โรยเกลือเล็กน้อยตัดรสชาติ แช่ฟรีซ 15 นาที
  5. หลังจากแข็งได้ที่เอาออกขากกระดาษไข หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยมตามชอบ แพ็คใส่แพคเกจใสๆเพื่อให้เห็นลวดลาย สามารถตั้งขายเป็นสินค้า Grab & Go ที่แคชเชียร์หน้าร้านได้ด้วย

Matcha chocolate Bark Matcha chocolate Bark Matcha chocolate Bark

Matcha chocolate Bark 3 Matcha chocolate Bark 2

การทำ Matcha chocolate Bark ยังสามารถโรยแต่งหน้าด้วยงาดำ ถั่วพิตาชิโอ เกนไมฉะ หรือเปลี่ยนจากไวท์ช็อคโกแลต เป็นดาร์คช็อคโกแลตได้อีกด้วย เพียงแค่มีผงมัทฉะ และช็อคโกแลตเป็นส่วนผสมหลัก ก็สามารถดัดแปลงไปได้อีกหลากหลายเมนู

Matcha chocolate Bark 4 Matcha chocolate Bark 5

Matcha chocolate Bark 6 Matcha chocolate Bark 7

อีกเมนูที่จะช่วยให้เราจัดการกับวัตถุดิบที่เหลืออย่างพวกเค้กต่างๆได้ คือการเอามาทำMatcha Chocolate Ball โดยเอาเนื้อเค้กอาจจะเป็ฯบัตเตอร์เค้ก หรือเนื้อเค้กชิฟฟ่อนก็ได้ ที่เหลือจากการขายไม่หมด หรือส่วนเกินของขอบเค้กเวลาหั่นเนื้อเค้ก มาผสมรวมกันกับช็อคโกแลตที่ละลายแล้ว ปั่นให้กลายเป็นก้อนกลมๆ แล้วนำไปจุ่มเคลือบด้วยช็อคโกแลตอีกครั้ง เสียบไม้ตั้งพักไว้ แล้วโรยหน้าตกแต่งด้วยผงมัทฉะเล็กน้อย เก็บแช่ตู้เย็นได้นานถึง 3 สัปดาห์ โดยไม่ต้องทิ้งเค้กส่วนเกินนั้นไป

หากใครที่ชอบความพิเศษ ก็สามารถผสมพวกเม็ดมะม่วงหิมพานต์สับ อัลมอนด์สับลงไปตอนปั้นเป็นก้อนกลมได้

Matcha Chocolate Ball

ต่อไปก็จะหมดปัญหาวัตถุดิบเหลือเยอะจนหมดอายุไปโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อเรารู้จักยืดอายุของวัตถุดิบด้วยการทำเป็นช็อคโกแลต และหากเรารู้จักวิธีการเก็บรักษาวัตถุดิบแต่ละอย่างให้ถูกวิธี ก็จะสามารถยืดอายุของอาหาร รวมถึงคงรสชาติให้เหมือนวันแรกที่ซื้อมาเลย

ที่มา

https://themerrymakersisters.com/matcha-chocolate-recipe/

https://www.ohhowcivilized.com

https://www.pinterest.com/pin/843158361476790634/

บทความจาก : Fuwafuwa

Matcha Coco Drink

เตรียมพร้อมกับวันทำงาน
เริ่มต้นดูแลสุขภาพด้วยเครื่องดื่มที่มีประโยชน์
กับเมนูนี้…

Matcha Coco Drink
抹茶ココドリンク

ความหอมละมุนละไมของมัทฉะ
ผสมผสานกับน้ำมะพร้าวที่ให้ความสดชื่นแล้ว
ยังมีกรดไขมัน 7 ชนิด เหมือนในน้ำนมแม่
ที่คอยสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ

รู้แบบนี้แล้วรีบคว้าซอง MATCHAZUKI แล้วมาชงดื่มกันนะครับ

ส่วนผสมสำคัญ

1. น้ำมะพร้าว  120  ml
2. ไซรัป  20  ml
3. เนื้อมะพร้าว  10  g
4. MATCHAZUKI Excellent  2  tsp
5. น้ำอุ่น  60  ml
6. น้ำแข็ง  1/2  แก้ว

ขั้นตอนการทำ

  • ใส่ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Excellent ลงในถ้วยชงชา ตามด้วยน้ำอุ่น และใช้แปรงชงชาละลายผงมัทฉะ พักไว้
  • ผสมน้ำมะพร้าว ไซรัป และเนื้อมะพร้าวเข้าด้วยกัน
  • ใส่น้ำแข็งในแก้วเสิร์ฟ ตามด้วยน้ำมะพร้าว และเทมัทฉะไว้ชั้นบนสุด พร้อมเสิร์ฟ!

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
マッチャラブユー

สารอาหารในมัทฉะและปริมาณมัทฉะที่ดีต่อสุขภาพ

ก่อนที่จะเฉลยเรามาดูกันผ่านๆ ดีกว่าว่ามัทฉะมีสารอาหารอะไรอยู่บ้าง
มัทฉะปริมาณ 100 กรัมมีสารอาหารดังต่อไปนี้

“พลังงาน 324 kcal, น้ำ 5 กรัม, โปรตีน 29.6 กรัม, โปรตีนจากกรดอะมิโน 22.6 กรัม, ไขมัน 5.3 กรัม, 0.68 กรัม, ไตรกลีเซอไรด์ 3.3 กรัม, กรดไขมันอิ่มตัว 0.68 กรัม, กรดไขมันไม่อิ่มตัวพันธะคู่เดี่ยว 0.34 กรัม, กรดไขมันไม่อิ่มตัวพันธะคู่หลายคู่ 2.16 กรัม, คอเรสเตอรอล 0 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 39.5 กรัม, คาร์โบไฮเดรตที่นำไปใช้ได้ 1.6 กรัม, ไฟเบอร์ที่ละลายได้ในน้ำ 6.6 กรัม, ไฟเบอร์ที่ไม่ละลายในน้ำ 31.9 กรัม, ปริมาณไฟเบอร์ทั้งหมด 38.5 กรัม, ปริมาณเถ้า (ส่วนของสารอนินทรีย์ในอาหาร) 7.4 กรัม, โซเดียม 6 มิลลิกรัม, โพแทสเซียม 2700 มิลลิกรัม, แคลเซียม 420 มิลลิกรัม, แมกนีเซียม 230 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 350 มิลลิกรัม, เหล็ก 17.0 มิลลิกรัม, สังกะสี 6.3 มิลลิกรัม, ทองแดง 0.6 มิลลิกรัม, วิตามิน A เบต้าแครอทีน 29000 ไมโครกรัม, วิตามิน A1 2400 ไมโครกรัม, วิตามิน E โทโคฟีรอล 28.1 มิลลิกรัม, วิตามิน K 2900 ไมโครกรัม,วิตามิน B1 0.6 ไมโครกรัม, วิตามิน B2 1.35 มิลลิกรัม, ไนอาซิน 4.0 มิลลิกรัม, วิตามิน B6 0.96 มิลลิกรัม, กรดโฟลิก 1200 มิลลิกรัม, กรดแพนโทเทนิก 3.7 ไมโครกรัม, วิตามิน C 60 มิลลิกรัม, คาเฟอีน 3.2 กรัม, แทนนิน 10.0 กรัม”

ขอโทษที่ยาวนะครับ อ่านผ่านๆ ก็พอ
ข้อมูลนี้ผมแปลมาจากรายการสารอาหารมาตรฐานในสินค้าบริโภค ฉบับแก้ไขครั้งที่ 7 ปี 2015 (ฉบับล่าสุด) จัดทำโดยกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ประเทศญี่ปุ่นครับ เชื่อถือได้และไปใช้อ้างอิงได้เลย
ดูจากข้อมูลนี้แล้วจะพบว่ามัทฉะมีคุณค่าทางสารอาหารมากมาย กินทั้งกระปุกไป 100 กรัมคงไม่เป็นไรใช่ไหมครับ? ทว่ามีสารตัวหนึ่งที่เราควรระวังเป็นพิเศษ นั่นคือ คาเฟอีน

มัทฉะ 100 กรัม มีคาเฟอีน 3.2 กรัม แปลว่ามัทฉะ 1 กรัมมีคาเฟอีน 32 มิลลิกรัมนั่นเอง สมมุติว่าชามัทฉะกับน้ำร้อน ปกติใช้มากสุด 2 กรัม แปลว่าร่างกายเราจะได้รับคาเฟอีน 64 มิลลิกรัม
งั้นปริมาณคาเฟอีนที่ควรได้รับคือเท่าไหร่กันล่ะ?
ขณะนี้ไม่มีค่า ADI (Acceptable Daily Intake) ที่กำหนดไว้สำหรับคาเฟอีน หากอ้างตามคำแนะนำของหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป EFSA (European Food Safety Authority) ปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมใน 1 วันนั้นแตกต่างกันตามช่วงอายุและน้ำหนักตัวตามตารางด้านล่างนี้

ช่วงอายุ ปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน ปริมาณมัทฉะที่แนะนำ สรุปอย่างง่าย
75 ปีขึ้นไป 22-417mg 0.69-13.03g ได้ถึง 2 ช้อนโต๊ะ 1 ช้อนชา
65-75 ปี 23-362mg 0.72-11.31g ได้ถึง 2 ช้อนโต๊ะ ครึ่งช้อนชา
18-64 ปี 37-319mg 1.16-9.97g ได้ถึง 2 ช้อนโต๊ะ
10-18 ปี 0.4-1.4mg/น้ำหนักตัว (kg) 0.01-0.0437g x น้ำหนักตัว (kg)
3-10 ปี 0.2-2.0mg/น้ำหนักตัว (kg) 0.006-0.0625g x น้ำหนักตัว (kg)
12-36 เดือน 0-2.1mg/น้ำหนักตัว (kg) 0.006-0.03125g x น้ำหนักตัว (kg)
สตรีมีครรภ์ 200 mg ต่อวัน 6.25 gต่อวัน ได้ถึง 1 ช้อนโต๊ะ ครึ่งช้อนชา

ตามตารางด้านบน ช่วงอายุ 12 เดือนถึง 18 ปีคงต้องฝากผู้อ่านคำนวณกันเอาเองนะครับ ท่านที่ไม่มีเครื่องวัดอาจจะรู้สึกยุ่งยาก ผมเลยลองดูว่าถ้าเปลี่ยนเป็นหน่วยช้อนชาที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคย

หากท่านดูรูปประกอบด้านล่างรูปที่มีช้อนคันสีฟ้า นั่นเป็นช้อนตวงปริมาณ 1 ช้อนชา ปริมาณมัทฉะจะอยู่ประมาณประมาณ 2.2-2.4 กรัมครับ ส่วนในรูปปกบทความนั้นตวงมาจากช้อนตวง 1 ช้อนชาจะได้มัทฉะราว 4.9-5.1 กรัมครับ ช้อนตวงพวกนี้หาไม่ยากเลย ลองเอามากะๆ ดูก็ได้ครับ

การศึกษาเรื่องปริมาณคาเฟอีนยังเป็นหัวข้อศึกษากันอยู่ องค์กรของหลายๆ ประเทศก็ให้ข้อสรุปแตกต่างกัน บางที่เช่นสำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารประเทศนิวซีแลนด์ (NZFSA) ก็กล่าวว่า วัยผู้ใหญ่ที่สุขภาพแข็งแรงสามารถรับคาเฟอีนได้สูงสุด 400 mg ต่อวัน (มัทฉะ 2 ช้อนโต๊ะกับ 1 ช้อนชานิดๆ ) หากมีงานวิจัยใหม่ๆ ออกมาตัวเลขนี้คงเปลี่ยนแปลงไป แต่ถ้าเชื่อตามยุโรป ตัวเลขในตารางนี้ก็พอให้เห็นภาพบ้างครับ

ถ้าร่างกายรับคาเฟอีนไปแล้วจะมีผลอย่างไรบ้าง?

มีการศึกษามากมายเกี่ยวกับเรื่องประโยชน์และโทษของคาเฟอีน รวมถึงมีหลายกรณีมาก เราจึงตัดสินกันไม่ได้ง่ายๆ ว่าคาเฟอีนจะส่งผลแบบไหนกับคนจำพวกไหน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการความปลอดภัยด้านอาหาร ประเทศญี่ปุ่น (Food Safety Commission of Japan: FSC) ก่อตั้งโดยสำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคาเฟอีนไว้ดังนี้ครับ

ได้รับในปริมาณเหมาะสม: ประสาทตื่นตัว แก้ความง่วง แก้อาการเมาแอลกอฮอล์ (ระวังจะดื่มสุรามากเกินไปนะครับ)

ได้รับในปริมาณมากเกินไป:

  1. กระตุ้นประสาทส่วนกลาง: อาการวิงเวียน ชีพจรสูงขึ้น วิตกกังวล อาการสั่น อาการนอนไม่หลับ
  2. กระตุ้นทางเดินอาหาร: กระตุ้นอาการท้องเสีย คลื่นไส้
  3. ขับปัสสาวะ

นอกจากนี้องค์การอนามัยโลกยังกล่าวว่า ในสตรีมีครรภ์ ร่างกายจะมีการกำจัด (clearance) คาเฟอีนจากกระแสเลือดได้ช้าลง งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าการรับคาเฟอีนมากเกินไป (ตัวเลขขององค์การอนามัยโลกคือ 300 mg ต่อวัน – มัทฉะเกือบ 2 ช้อนโต๊ะ) มีความเป็นไปได้ที่พัฒนาการของทารกในครรภ์จะช้าลง น้ำหนักทารกแรกเกิดต่ำลง คลอดเร็ว และทารกตายคลอด จึงแนะนำให้จำกัดปริมาณคาเฟอีนในระดับที่เหมาะสม

ส่วนสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มประเทศญี่ปุ่นยังแนะนำไม่ให้ดื่มเครื่องดื่มคาเฟอินขณะใช้เภสัชภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน

ไม่ว่าอาหารนั้นๆ จะมีคุณค่าทางสารอาหารมากขนาดไหน ถ้าทานมากไปก็ไม่ดีทั้งนั้น แม้แต่มัทฉะก็ตาม บางคนชงมัทฉะตามธรรมเนียมดั้งเดิม (1.7-2.0 กรัม) ไม่กล้าทานมากๆ หวังว่าเมื่อทุกคนจะดื่มมัทฉะได้อย่างสบายใจมากขึ้นเมื่อได้อ่านบทความนี้นะครับ

https://chakatsu.com/basic/caffeine_matcha/

บทความจาก : Vachi

Matcha cotta frappuccino

เมนูทีเด็ดความหอมนุ่มละมุนอีกเมนูนึงนะครับ
ที่เราจะมาเสนอวิธีการทำกันในวันนี้

Matcha cotta frappuccino
(抹茶コッタフラップ)

วิธีการทำไม่ยากเช่นเคยครับ ทุกคนสามารถทำได้
มาดูวิธีทำกันดีกว่าครับ ^^

ส่วนผสมสำคัญ 

ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Classic 2 ช้อนชา

น้ำร้อน 50 ml

พานาคอตต้าสำเร็จรูป 1 ถ้วย

น้ำเชื่อม 30 ml

นมสดอุ่น 150 ml

น้ำแข็ง

ซอสช็อคโกแลต และ วิปครีม สำหรับตกแต่งแก้ว

ขั้นตอนการทำ

  • ใส่ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Classic ลงในถ้วยชงชา เทน้ำร้อน และใช้แปรงชงชาละลายผงมัทฉะ ผสมจนผงมัทฉะเข้ากับน้ำดีแล้วพักไว้
  • ใส่น้ำแข็งลงในเครื่องปั่น เทนมอุ่น และส่วนผสมมัทฉะที่เตรียมไว้ตามลงไป เติมน้ำเชื่อมตามต้องการ หลังจากนั้นปั่นให้ส่วนผสมเข้ากันดี
  • ตกแต่งแก้วที่เตรียมไว้ด้วย ซอสช็อคโกแลต ใส่พานาคอตต้าสำเร็จรูปลงในแก้ว และเทมัทฉะที่ปั่นเสร็จแล้วตามลงไป ตกแต่งด้วยวิปครีม และ ซอสช็อคโกแลต ด้านบนตามชอบ พร้อมเสิร์ฟแล้วครับ

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
マッチャラブユー

“ไม่อยากพลาดสูตรเด็ด Content ดีๆ อย่าลืมติดดาว หรือกด SeeFirst ไว้นะครับ ^^”

Cotton Candy Matcha มัทฉะสายไหม

มัทฉะสายไหม

Cotton Candy Matcha

ความหวานนุ่ม สายไหมละลายในปาก
ความหอมหวานที่ลงตัวเข้ากันกับมัทฉะที่เข้มข้น
ไม่ลองไม่ได้แล้วครับ วิธีการทำไม่ยากแน่นอน
แต่อร่อยเอาใจคอชาเขียว แน่นอน!!!
มาดูวิธีทำกันดีกว่าครับ

#สายหวานต้องหลงรัก #มัทฉะทำอะไรก็อร่อย

ส่วนผสมสำคัญ

ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Medium 2 ช้อนชา

น้ำร้อน 50 ml

นมสด 150 ml

น้ำเชื่อม 30 ml

นมสด (สำหรับทำฟองนม)

น้ำแข็ง

สายไหม สำหรับตกแต่ง

ขั้นตอนการทำ

  • ใส่ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Medium ลงในถ้วยชงชา เทน้ำร้อน และใช้แปรงชงชาละลายผงมัทฉะ ผสมจนผงมัทฉะเข้ากับน้ำดีแล้วพักไว้
  • เทส่วนผสมของมัทฉะที่เตรียมไว้ลงในนมสด เติมน้ำเชื่อมตามความหวานที่ต้องการ และผสมให้เข้ากัน
  • นำนมสดอีกส่วนมาปั่นฟองนม
  • ใส่น้ำแข็งลงในแก้วที่เตรียมไว้ เทส่วนผสมของมัทฉะลงไป ตกแต่งด้วยฟองนม และสายไหมด้านบนให้สวยงาม เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟมัทฉะสายไหมแล้วครับ

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
マッチャラブユー

Matcha Strawberry Frappe มัทฉะสตรอเบอร์รี่ปั่น

ต้นเดือนพฤศจิกายน อากาศดีๆแบบนี้ มาเริ่มเมนูหวานๆน่ารักๆ
เอาใจคนชอบมัทฉะและสตรอเบอร์รี่กันครับ

กับความหอมละมุนของตัวชาเขียว และความนุ่มหวาน
ของวิปปิ้งครีมสตรอเบอร์รี่ และจบด้วย
เคี้ยวเพลินๆ ฟินในปาก กับคิทแคทชาเขียว

เมนูนี้ทำงายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน
อยากให้ทุกท่านได้ลองกันครับ กับ Matcha Strawberry Frappe

ส่วนผสมสำคัญ

ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Classic 1 ช้อนชา

น้ำเปล่า 50 ml

นมสด 100 ml

น้ำเชื่อม 50 ml

วิปปิ้งครีม 100 ml

ไซรัปสตรอเบอร์รี่ 30 ml

คิทแคทชาเขียว สำหรับตกแต่ง

ขั้นตอนการทำ

  • ใส่ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Classic ลงในถ้วยชงชา เทน้ำร้อน และใช้แปรงชงชาละลายผงมัทฉะ ผสมจนผงมัทฉะเข้ากับน้ำดีแล้วพักไว้
  • เทส่วนผสมของมัทฉะที่เตรียมไว้ลงในนมสด เติมน้ำเชื่อมตามความหวานที่ต้องการ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  • นำวิปปิ้งครีมเทลงภาชนะที่เตรียมไว้ เทไซรัปสตรอเบอร์รี่ ใช้เครื่องตีตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟู
  • ใส่น้ำแข็งลงในแก้วเสิร์ฟ และเทมัทฉะตามลงไป เพิ่มท็อปปิ้งด้วยวิปครีมสตรอเบอร์รี่ และคิทแคทชาเขียวตามใจชอบพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแล้วครับ

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
マッチャラブユー

White Chocolate Matcha

เสิร์ฟความละมุนสำหรับคนสายหวาน
สองรสชาติความนุ่มที่ลงตัวกับเมนูนี้

White Chocolate Matcha
白チョコレートマッチャ

ความหอมเข้มของมัทฉะ
ผสมผสานกับความละมุนของนมปั่น
สองรสชาตินี้ที่เข้ากัน ชง ปั่น ง่ายๆที่ลงตัว
ลองทำดูกันนะครับ

ส่วนผสมสำคัญ

White Chocolate 100g

นมสดรสหวาน 100 ml

น้ำเชื่อม (ปรับความหวานตามชอบ) 30 ml

น้ำแข็ง

ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Medium 1 1/2 ช้อนชา

น้ำร้อน 100 ml

ขั้นตอนการทำ

  • ละลาย White Chocolate กับนมสดรสหวาน ด้วยไฟอ่อนๆ รอจนละลายดี
  • เทส่วนผสมของ White Chocolate ที่ละลายแล้ว และน้ำแข็งลงในเครื่องปั่น ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน และเทใส่แก้วที่เตรียมไว้สำหรับเสิร์ฟ
  • ใส่ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Medium ลงในถ้วยชงชา เทน้ำร้อน และใช้แปรงชงชาละลายผงมัทฉะ ผสมจนผงมัทฉะเข้ากับน้ำดีแล้วพักไว้
  • เทส่วนผสมของมัทฉะ และน้ำแข็งลงในเครื่องปั่น เติมน้ำเชื่อมตามความหวานที่ต้องการ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน และเทใส่ด้านบนของส่วนผสม White Chocolate ตกแต่งด้านบนด้วย White Chocolate ตามชอบ พร้อมเสิร์ฟแล้วครับ

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
マッチャラブユー