ออกแบบโลโก้ร้านชา ให้ลูกค้าจำได้ง่าย
|

ออกแบบโลโก้ร้านชา ให้ลูกค้าจำได้ง่าย

Logo ถือเป็นส่วนสำคัญที่เปรียบเสมือนหน้าตาของร้าน มีผลต่อการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้ โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มีร้านของหวานเครื่องดื่มออกใหม่มากมาย โลโก้ที่ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์อาหารถ้ายิ่งจดจำได้ง่าย มีเอกลักษณ์ ก็จะยิ่งช่วยให้ลูกค้าเกิดการบอกต่อได้ง่ายขึ้นด้วย หลักการในการออกแบบโลโก้ที่ดี ให้จดจำง่ายไม่ซ้ำร้านอื่นมีเทคนิคอะไรบ้าง มาดูกัน เริ่มจากต้องมีเอกลักษณ์ของร้านเพราะโลโก้ของร้านควรจะสื่อสารถึงตัวตนของร้าน สไตล์อาหารที่ขาย มองแล้วรับรู้ทันทีว่านี่คือร้านอาหารอะไร มีลักษณะที่สัมพันธ์กับการตั้งชื่อร้าน ถ้าไม่ไปซ้ำซ้อนกับร้านอื่นๆได้จะยิ่งดีเพราะป้องกันความสับสนของลูกค้า อย่างร้านที่ขายชาเขียวแท้ๆจากญี่ปุ่น ก็อาจจะมีการใช้ภาษาญี่ปุ่น เพื่อสื่อถึงที่มาของวัตถุดิบพระเอกของร้าน หรือใช้ดีไซน์ที่เป็นเหมือนอินตัง ( ตรายาง ) ของคนญี่ปุ่น เพื่อดึงเอกลักษณ์ดีไซน์ความเป็นญี่ปุ่นออกมาสื่อถึงที่มาของวัตถุดิบแท้ๆ โลโก้ที่ดีควรสื่อความหมายเพราะโลโก้ที่ดีจะต้องสามารถสื่อความหมายได้มากกว่าแค่บอกชื่อร้าน อย่างเช่นการใช้รูปใบชา ถ้วยชงชา หรือฉะเซ็นที่เป็นอุปกรณ์ชงชา เพื่อบ่งบอกถึงความเชี่ยวชาญในรสชาติของชาที่้ร้าน รูปที่อยู่ในโลโก้ควรจะผ่านการคิดว่ามีความหมายอย่างไร เห็นเข้าใจและจดจำได้ง่าย เพื่อสื่อสารไปให้ถึงลูกค้าได้ตรงประเด็น ซึ่งนอกจากรูปภาพ ที่ใช้ในการสื่อความหมายแล้ว สีของโลโก้ ก็ยังเป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยให้นึกถึงสินค้าในแบรนด์ได้ง่ายขึ้น  อย่างเช่นการใช้สีเขียวในโลโก้ ทำให้นึกถึงชาเขียวได้ง่ายขึ้น สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ ไม่ผ่านการปรุงแต่งจากสารสังเคราะห์ ให้โลโก้สื่ออารมณ์ของร้าน  ต้องรู้ก่อนว่าอยากให้ภาพออกมามีอารมณ์แบบไหน สอดคล้องกับร้านของเราอย่างไร เช่น ร้านขายชา ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิง ไม่ได้เน้นชาที่เข้มข้น แต่เน้นการปรับสูตรไปให้หลากหลาย ผู้หญิงทานง่ายขึ้นและมีขนมอื่นๆที่ทำจากชา จะต้องใช้โลโก้ที่มีโทนสีชมพูปนเข้ามา เพื่อดึงดูดสายตาผู้หญิงที่มีความอ่อนหวาน หรือปรับเป็นโลโก้ที่เรียบๆนิ่งๆ แต่เน้นแพคเกจจิ้งสีหวานเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิง ไม่ใช้สีสันที่มากจนเกินไปจำนวนสีที่ใช้บนโลโก้ควรอยู่ที่ 1 –…

เมนูสุดฮิต Matcha Croissants
|

เมนูสุดฮิต Matcha Croissants

ครัวซองค์เบเกอรี่ที่หลายคนชื่นชอบ มีหลายร้านที่ทำครัวซองค์ออกมาขายในรสชาติยอดนิยม อย่างครัวซองค์อัลมอนด์ , ครัวซองค์เนย, ครัวซองช็อคโกแลต ซึ่งถ้าใครชื่นชอบชาเขียวเป็นพิเศษ ก็อาจจะรู้สึกว่าครัวซองค์ชาเขียวเป็นอะไรที่หากินยาก รอบนี้เลยเอาใจร้านที่มีเมนูครัวซองค์อยู่ในร้านแล้ว แต่อยากต่อยอดให้มีรสชาติแปลกใหม่อย่างชาเขียว ว่ามีเทคนิคอะไรบ้างที่จะทำให้ครัวซองค์ที่ร้าน แต่ต่างจากร้านอื่นๆ มาเอาใจคนเลิฟมัทฉะครัวซองค์แบบแรกด้วยไอเดียแสนง่ายเพียงเติมผงมัทฉะลงไปในแป้งที่มาทำเป็นโดว์ครัวซองค์  และเวลาอบออกมาแป้งจะได้สีเขียวสวยแตกต่างจากครัวซองค์เนยทั่วไป ไอเดียต่อมาที่ทำง่ายและสีสวยน่ารับประทานคือการบีบครีมสดชาเขียวนุ่มละมุนลงครัวซองค์ การบีบก็ทำได้หลายวิธีและมีหลายหัวบีบที่ทำให้ครัวซองค์แต่ละร้านมีหน้าตาต่างกันออกไป การนำเทคนิคแบบการทำมองค์บลังค์มาบีบครีมสด ก็เป็นอีกไอเดียที่ทำให้ครัวซองค์น่าทานมากขึ้น ซึ่งครีมที่บีบตรงนี้อาจจะผสมถั่วขาวเข้าไปตามสไตล์ขนมญี่ปุ่นก็ช่วยตัดเลียนได้เช่นกัน นอกจากครีมสดแล้วอีกวิธีที่เห็นได้ทั่วไป คือครัวซองค์เคลือบช็อคโกแลตชาเขียว ตัวนี้เคลือบได้หลายวิธีเลย ทั้งการเคลือบทั้งชิ้น หรือเคลือบแค่ส่วนเดียวแล้วโรยท้อปปิ้งด้วยช็อคโกแลต หรือผงครัมเบิ้ล อัลมอนด์าไลด์ตามชอบ หรือเพิ่มความเข้มข้นให้ถูกใจคนรักชาเขียวด้วยดิปซอสชาเขียว ยิ่งทำให้ขนมน่าทานและเกิดการถ่ายภาพแชร์ต่อกันในโซเชียลได้ ส่วนตัวไส้ครัวซองค์ที่นิยมทานคู่ชาเขียว คงหนีไม่พ้น ถั่วแดงและครีมสด ขนมสไตล์ลูกครึ่งญี่ปุ่นฝรั่ง ส่วนครัวซองที่เป็นชิ้นเล็กๆที่เหลือจากการหั่นครัวซองค์เพื่อขึ้นรูป แนะนำให้หาพิมพ์ CUBE มาแล้วเอาเศษที่เหลือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆใส่เข้าไป ก็จะได้ครัซองค์หน้าตาแบบใหม่ที่ต่างจากร้านอื่นแน่นอน หรือถ้าหากใครอยากได้ลวดลายครัวซองค์ CUBE ที่สวยงาม แทนที่จะขึ้นรูปครัวซองค์ปกติ สามารถขึ้นโดว์ด้วยการม้วนแล้วให้ขึ้นฟูในแม่พิมพ์ก็ได้ พออบออกมาจะได้ลายก้นหอยที่สวยงาม และสามารถใส่ไส้ครีมสดชาเขียว โรยหน้าตกแต่งด้วยไอซิ่ง หรือถั่วพิตาชิโอ้ ยิ่งทำให้น่ารับประทานมากขึ้น ถัดจากขนมอีกส่วนที่เป็นหน้าตาของร้านพอกันคือ แพคเกจ ร้านส่วนใหญ่นิยมใช้มักเป็นกระดาษห่อปกติ หรือใส่รวมกันในกล่อง หากอยากสร้างความแตกต่างให้ครัวซองค์ชาเขียว สามารถทำแพคเกจที่แตกต่างออกมาได้ นอกจากจะช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้ที่ร้านแล้วยังช่วยให้ครัวซองค์แต่ละชิ้นถูกเก็บในกล่องแยกชิ้นกันอย่างดี ไม่เสียหาย สร้างสรรค์เมนูเดิมๆให้เป็นเมนูใหม่ๆตามแบบฉบับคนรักชาเขียว…

Matcha Breakfast Dish เมนู Matcha Yogurt
|

Matcha Breakfast Dish เมนู Matcha Yogurt

หลายคนอาจคิดว่าการได้จิบชาอุ่นๆ ในตอนเช้านั้นเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็กต์ แต่ความจริงแล้วตอนเช้าเป็นช่วงที่ท้องกำลังว่าง หากเราดื่มชาเขียวเข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดกรดในกระเพาะอาหาร จนอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะได้ แถมคาเฟอีนที่อยู่ในชาเขียวยังจะกระตุ้นให้ร่างกายขับน้ำออกมา อาจทำให้เรารู้สึกขาดน้ำ สมองช้า ไม่สดชื่นอีกด้วย ทางที่ดีควรกินอาหารเช้าให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยตามด้วยชาเขียวสัก 1 แก้ว หรือถ้าอยากทานชาเขียวจริงๆ ลองเอาไปผสมในซุป โยเกิร์ต หรือเมนูอื่นๆที่เหมาะกับการเป็นมื้อเช้า ทำให้ได้มื้อเช้าแสนอร่อยสไตล์คนเลิฟมัทฉะ และยังเป็นการเพิ่มเมนูมื้อเช้าให้ร้านคาเฟ่ของคุณได้อีกด้วย เริ่มกันที่เมนูเบาๆง่ายๆไม่หนักท้องและดีต่อสุขภาพ อย่าง Matcha Yogurtเมนูที่หลายคนลืมนึกไปว่าชาเขียวก็ทานคู่กับโยเกิร์ตได้ เพียงแค่นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 300 กรัม มาผสมกับผงมัทฉะ 1 ช้อนโต๊ะ เมเปิ้ลไซรัป 2 ช้อนชา คนให้เข้ากันแล้วท้อปปิ้งด้วย กีวี ลูกพีช บลูเบอรี่ แอปเปิ้ล หรือผลไม้อื่นๆตามที่ชอบ แต่ถ้าใครไม่ชอบทานโยเกิร์ แนะนำเป็น Matcha Breakfast Bowl ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร ด้วยการนำเมล็ดเจีย 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับนมอัลมอนด์ หรือนมแมคคาดีเมีย หรือนมวัวแล้วแต่ชอบในปริมาณ 1 ถ้วย และผงมัทฉะ 2 ช้อนชา ปั่นรวมเข้ากัน สามารถเติมน้ำผึ้งเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหวานได้ตามชอบ…

ยืดอายุวัตถุดิบในร้าน ด้วยการทำ Matcha Chocolate
|

ยืดอายุวัตถุดิบในร้าน ด้วยการทำ Matcha Chocolate

เคยสงสัยกันมั้ยว่า ช็อคโกแลตมีวันหมดอายุมั้ย ทำไมถึงเก็บได้นานกว่าขนมชนิดอื่นๆ??? ช็อคโกแลต เป็นของหวานที่อยู่ได้นาน เพราะทำมาจาก เนยโกโก้ถูกนำมาใช้เพื่อให้ขนมหวานสีน้ำตาลนี้อยู่ได้นานเป็นปี เพียงแค่แช่ตู้เย็นรักษาอุณหภูมิเอาไว้ ไม่เพียงเท่านั้น เนยโกโก้ยังถูกนำมาใช้กับโลชันทาผิวและทาหน้า เพื่อให้มันสามารถอยู่ได้นานเป็นปีอีกด้วย เนยโกโก้ไม่ได้มีดีเพียงเท่านั้น มันยังมีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถแข็งตัวเมื่ออุณหภูมิพอเหมาะ และละลายได้เมื่ออยู่ในอุณหภูมิร่างกายประมาณ 34 องศาขึ้นไป นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ช็อกโกแลตละลายในปากนั่นเอง ด้วยความที่เก็บรักษาได้ยาวนาน จึงทำให้บางครั้งมีคราบขาวๆบริเวณผิวช็อคโกแลตได้ แต่นั่นเป็นเพียงไขมันที่ละลายแล้วขึ้นไปเกาะที่ผิวหน้าช็อกโกแลต ไม่ใช่เชื้อราแต่อย่างใด ด้วยลักษณะพิเศษของช็อคโกแลตที่เก็บได้นานจึงเป็นขนมที่เหมาะสำหรับการใช้ช่วยแปรสภาพวัตถุดิบในร้านที่อาจจะซื้อมาสต็อกไว้มากเกินไป จนระบายไม่ทัน และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบที่มีอยู่ให้เป็นขนมรูปแบบใหม่ที่น่าทานมากกว่าเดิม ด้วยการทำช็อคโกแลตชาเขียวนั่นเอง Two – tone Matcha Chocolate เมนูช็อคโกแลตชาเขียวแสนง่าย 2 สี ขนาดพอดีคำ ละลายเนยโกโก้ 100 กรัม ค่อยๆเติมน้ำผึ้งลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ในขณะที่ช็อคโกแลตยังอุ่นอยู่ ยกออกจากเตา แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกเติมผงมัทฉะ 1 ช้อนชา เกลือเล็กน้อย และกลิ่นวนิลา คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่พิมพ์ตามขนาดและรูปร่างที่ต้องการ เข้าช่องฟรีซ 10 นาที ส่วนช็อคโกแลตที่แบ่งทิ้งไว้อีกส่วนให้เติมผงโกโก้ 2…

Matcha Cookie เมนูง่ายๆที่ไม่ธรรมดา
|

Matcha Cookie เมนูง่ายๆที่ไม่ธรรมดา

หากพูดถึงคุ้กกี้ ขนมเบเกอรี่พื้นฐานที่สุดที่ทำได้ง่าย เห็นได้จากสถานการณ์ช่วงนี้ที่หลายคนเริ่มเปิดเตาอบขนมขายกันจนลูกค้าเองก็เลือกไม่ถูกว่าจะทานขนมจากร้านไหนดี ดังนั้น เพื่อให้เรามีร้านขนมที่แตกต่างจากร้านอื่น การใส่ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ลงไปจึงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในทุกๆขั้นตอน เริ่มจากการทำคุ้กกี้เนยชาเขียวปกติที่สามารถสร้างความแตกต่างจากร้านอื่นได้ง่ายๆ เพียงเพิ่มลวดลายด้วยการเคลือบช็อคโกแลต หรือไวท์ช็อคโกแลต  โรยด้วยผงชาเขียวอีกเล็กน้อย หรือโรยช็อคโกแลตชิพ แต่งด้วยดอกไม้ที่รับประทานได้ เป็นการสร้างความแตกต่างที่ทำให้คุ้กกี้ชาเขียวเพลนๆดูมี Value มากขึ้น นอกจากการเพิ่มท้อปปิ้งบนคุ้กกี้ชาเขียวเพลนๆแล้ว การใส่ส่วนผสมเพิ่มความหลากสีให้คุ้กกี้ 1 ชิ้น ก็เป็นอีกไอเดียที่มือใหม่บางคนไม่กล้าทำ ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวรสชาติและสีที่ออกมาไม่สวยและอร่อย จึงเน้นทำแยกรสชาติไปเลย แต่ถ้าใครที่พอมีฝีมืออยู่แล้ว ก็แนะนำให้ผสมหลายๆรสชาติ ไว้ด้วยกัน จะยิ่งทำให้ขนมชิ้นนั้นมีมิติมากขึ้น นอกจากนี้หากใครมีฝีมือในการปั้นก็ยังสามารถทำคุ้กกี้ชาเขียวเป็นรูปทรงต่างๆตามธรรมชาติ อย่างใบไม้ หรือรูปสัตว์เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าแม่และเด็กมากขึ้น นอกจากการทำคุ้กกี้เป็นลวดลายต่างๆแล้ว อีกสไตล์การทำคุ้กกี้ที่น่าสนใจ คือ การทำ โมจิมัทฉะคุ้กกี้ คุ้กกี้ชาเขียวสอดไส้โมจินุ่มหนึ่บ เป็นคุ้กกี้สไตล์ญี่ปุ่น ที่ในไทยยังไม่มีร้านไหนทำ หากใครสนใจลองเปิดเตาทำเมนูนี้ มาดูสูตรไปพร้อมๆกันเลย…… เริ่มจากใช้แป้งข้าวเหนียว 80 กรัม ผสมกับน้ำตาล 80 กรัม และน้ำ 90 กรัม คนให้เข้ากัน แล้วเอาเข้าไมโครเวฟ 600 วัตต์ เป็นเวลา 1.20 นาที…

เลือกใช้ Pantone สีชายังไงให้เป๊ะ
|

เลือกใช้ Pantone สีชายังไงให้เป๊ะ

ทำไมเราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการทำสื่อและการถ่ายภาพเมนูของที่ร้านมากๆ  ??? เพราะ สี คือ ส่วนสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในงานออกแบบ เพราะสีจะกำหนดความรู้สึกและสร้างอารมณ์ของผู้รับชม ไม่ว่าจะเป็นสีโทนเดียว(monochromatic), สดใส(bright), สดชื่น(cool), อบอุ่น(warm), หรือการเติมเต็มเฉดสีที่หลากหลายให้ทำหน้าที่ที่แตกต่างกันในหนึ่งชิ้นงานออกแบบ ชาแต่ละชนิด ให้สีที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีเก็บเกี่ยวและผลิต สเน่ห์ของสีชาที่ไม่ฉูดฉาด ดูแล้วสบายตาตามธรรมชาติ เช่น มัทฉะ ให้สีเขียวเข้ม ชาโฮจิฉะให้สีน้ำตาลแดงที่เกิดจากการนำชาเขียวไปคั่ว หรือชาอู่หลงที่ค่อนออกไปทางสีเหลืองทอง สีเหล่านี้ หากมาอยู่ในโปสเตอร์ หรือแพคเกจของร้าน การดึงจุดเด่นและเลือกใช้คู่สีที่เหมาะกัน เลือกใช้ชุดสี Pantone ที่ช่วยกันส่งเสริมให้ภาพดูเต็ม จะช่วยทำให้ภาพนั้นๆดูแล้วสบายตา ดึงดูดได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญหากมีชุดสีในใจจะช่วยให้คุณบรีฟงานกราฟฟิคดีไซน์ที่ออกแบบไม่ว่าจะเป็นเมนูชา แพคเกจจิ้งของที่ร้าน เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าPantone ที่ว่าหมายถึงอะไร ?? Pantone คือ ชื่อบริษัทที่ทำธุรกิจการพิมพ์และการออกแบบในสหรัฐอเมริกา หลายคนจะรู้จักกันในนามผู้ที่กำหนดมาตรฐานการเทียบสีที่เรียกว่า Pantone Matching System (PMS) เพื่อใช้ในโรงพิมพ์ทั่วโลก เวลาเราพิมพ์โปสเตอร์ ทำฉลากออกมา หรือหาคู่สีสำหรับการทำสื่อของผลิตภัณฑ์ชาเขียว เชื่อว่าหลายคนคงเจอปัญหาที่ว่าเลือกยังไง สีชาก็เพี้ยนไม่ตรงตามต้องการอยู่ดี การมี Pantone ไว้เทียบสีที่ชอบสักชุด ก็จะช่วยให้ได้งานที่เป๊ะมากขึ้น…

ส่งต่อความอร่อย เพิ่มยอดขายด้วยกลยุทธ์ OEM
|

ส่งต่อความอร่อย เพิ่มยอดขายด้วยกลยุทธ์ OEM

ในยุคที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ร้านค้าหลายร้านก็ถูกปิดตัวลง ร้านที่ยังอยู่รอดก็พยายามงัดหลากหลายกลวิธี ทั้งออกสินค้าใหม่ จัดกิจกรรม จัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้กลับเข้าร้านมากขึ้น แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่หลายแบรนด์อาจจะมองข้ามไป นั่นคือ การรับผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ OEM OEM ย่อมาจาก Original Equipment Manufacturer คือ การที่ร้านค้าไหน หรือแบรนด์ใดที่มีจุดเด่นในเรื่องการผลิตสินค้าสามารถเข้ารับจ้างผลิตสินค้าให้กับบริษัทอื่นๆได้ โดยเป็นลักษณะของการ Collaboration หรืออาจจะเป็นการผลิตให้แบรนด์อื่นๆเพื่อไปขายในแบรนด์ของตัวลูกค้าเองขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าโดยการใช้กระบวนการผลิตของโรงงานหรือร้านค้าเองตั้งแต่ฝ่ายผลิต ไปจนถึง เครื่องจักรต่างๆสำหรับการผลิต ซึ่งลูกค้าที่มาจ้างร้านค้าหรือโรงงานผลิต อาจจะมีความเชี่ยวชาญไม่มากพอในการทำสินค้าชนิดนั้นๆ หรือเล็งเห็นถึงความสามารถและเอกลักษณ์ของโรงงานหรือร้านค้านั่นๆว่าสามารถผลิตสินค้าตามเสปคได้  ในมุมมองลูกค้าหรือแบรนด์อื่นๆที่มาจ้าง ถือว่าช่วยลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลงได้เพราะสามารถย้ายฐานการผลิตไปที่อื่นๆที่ต้นทุนต่ำกว่าได้ตลอด เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง ง่ายต่อการเปลี่ยนลักษณะหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจ มีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการผลิตคอยดูแลให้ ได้วัจถุดิบตามมาตรฐานที่ต้องการโดยไม่ต้องลงแรงในการเสาะหาเองตั้งแต่ขั้นแรก แต่ถ้ามองในมุมมองของร้านค้าหรือโรงงานที่รับผลิตสินค้าให้ มีร้ายได้อีกช่องทางเพิ่มมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องลงทุนคิดสินค้าเองตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะมีสูตรจากทางผู้ว่าจ้างมาให้แล้ว ประหยัดต้นทุนทางการตลาดในการโฆษณาสินค้านั้นๆ เพราะผู้ผลิตไม่ได้เป็นคนขายสินค้าเอง ไม่ต้องคำนึงถึงการบริหารจัดการสต็อกสินค้าเอง เพียงแค่ทำตามออเดอร์ที่แบรนด์อื่นๆมาว่าจ้างให้ผลิต อย่างไรก็ตามการรับทำ OEM ให้แบรนด์อื่นๆ นอกจจากจะต้องคิดต้นทุนให้รอบคอบก่อนนำเสนอราคาขายให้แบรนด์ที่มาว่าจ้างแล้ว ยังต้องคำนึงถึงราคาที่แบรนด์นั้นๆจะไปขายต่อผู้บริโภคด้วย เพราะถ้าเราตั้งไว้สูงตั้งแต่แรก เจ้าของแบรนด์เขาต้องไปบวกราคาเพิ่มอีกกว่าจะถึงลูกค้า สินค้าชิ้นนั้นๆอาจจะราคาสูงเกิน ทำให้ยอดขายไม่ดีได้เช่นกัน นอกจากนั้นแล้วการรับ OEM ต้องคำนวนถึงค่าขนส่งสินค้า ด้วยเช่นกันว่า ราคาที่เราตั้งนั้นรวมถึงค่าขนส่งหรือยัง…

นำผงมัทฉะมาประกอบอาหารอย่าง โซบะชาเขียว
|

นำผงมัทฉะมาประกอบอาหารอย่าง โซบะชาเขียว

ใครที่ชื่นชอบชาเขียวเป็นชีวิตจิตใจ ยิ่งได้ชาเขียวพรี่เมี่ยมที่มีทั้งกลิ่น และรสชาติแบบออริจินัลใช้ทำเครื่องดื่มหรือขนมแล้ว เมนูนั้นจะยิ่งพิเศษ ชวนทานมากยิ่งขึ้น แต่หลายคนก็คงสงสัยเหมือนกันว่า ผงมัทฉะ เอาไปทำอย่างอื่นนอกจากเครื่องดื่มและขนมได้มั้ย???? ถ้านึกดีๆแล้ว ที่ญี่ปุ่น เรามักจะเห็นหลายๆร้านมีการนำผงมัทฉะมาประกอบอาหาร แต่เราอาจะลืมคิดไปว่าที่ไทย เมนูของคาวจากชาเขียว มีขายอยู่น้อยมาก ทั้งๆที่บางร้านเองก็ใช้ผงมัทฉะนำเข้าจากญี่ปุ่นเหมือนกัน การนำผงมัทฉะนั้นมาประกอบอาหารบ้างจึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน แถมยังได้สัมผัสชาเขียวดั้งเดิมอีก ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น ก็ทำกินเองได้ที่บ้าน แถมยังนำมาใส่ในเมนูของคาวที่ร้านคาเฟ่ได้อีก “เส้นโซบะชาเขียวโฮมเมด” ที่ไม่ต้องผ่านกรรมวิธีทางโรงงานให้ยุ่งยาก ส่วนผสม : แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม แป้งบัควีต 100 กรัม น้ำ 200 กรัม ผงมัทฉะ 1 ช้อนชา เริ่มจากการผสมแป้งบัควีตกับแป้งสาลีอเนกประสงค์เข้าด้วยกัน ร่อนแป้งลงในอ่างผสม ใส่ผงมัทฉะ แล้วค่อยๆ ใส่น้ำทีละน้อยพร้อมใช้มือคนแป้งไปเรื่อยๆ นวดแป้งให้ค่อยๆ ดูดน้ำ นวดและซุยแป้งจนรู้สึกว่ามีเนื้อสัมผัสคล้ายเม็ดทราย ใส่น้ำให้เหลือประมาณ ¼ ของน้ำทั้งหมด จากนั้นใส่น้ำที่เหลือลงไปพร้อมนวดให้แป้งจับตัวเป็นก้อน ใช้ฝ่ามือนวดแป้งตรงกลางแล้วพับริมแป้งขึ้นมาทับกัน นวดแป้งแบบนี้วนไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งจะนุ่ม (กดแล้วเป็นรอยบุ๋ม) จากนั้นปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลม โรยแป้งนวลบนไม้กระดานเล็กน้อย ย้ายก้อนแป้งของเรามาวางไว้ ใช้ฝ่ามือกดก้อนแป้งให้ขยายออก จากนั้นใช้ไม้คลึงรีดแป้งให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมจัตุรัสบางประมาณ…

รวมสูตรไอศกรีมชาเขียวสำหรับทุกคน
|

รวมสูตรไอศกรีมชาเขียวสำหรับทุกคน

ไอศกรีมชาเขียวเมนูที่ทำไม่ยาก แต่มีรายละเอียดเล็กน้อยที่ถ้าปรับส่วนผสมแค่เล็กน้อย จะส่งผลต่อรสชาติความเข้มข้นของชาเขียวอย่างร้านไอศกรีมชื่อดังแถวย่านอาซากุสะที่โตเกียวที่มีการทำไอศกรีมชาเขียวหลายระดับขาย แต่รอบนี้ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่นก็เข้าครัวทำไอศกรีมชาเขียวอร่อยๆได้หลายระดับ แถมยังใช้สูตรเดียวกันนี้ไปปรับกับไอศกรีมชาโฮจิฉะได้เช่นกัน สูตรเจือจาง   สูตรธรรมดา  สูตรเข้มข้น ผงชาเขียว               2 g.            8 g.         14 g. น้ำอุ่น                   10 g.          20 g.         40 g….

ชาเขียวจับคู่กับอะไรก็อร่อย
|

ชาเขียวจับคู่กับอะไรก็อร่อย

การเติมสมุนไพร ผลไม้ หรือ ดอกไม้ ลงไปในเครื่องดื่มชา เป็นการต่อยอดเมนูชา จากรสชาติออริจินัล ให้มีสีสัน รสชาติ กลิ่น ที่เปลี่ยนไป เพิ่มความน่าสนใจแปลกใหม่ให้ผู้ที่ชื่นชอบการลองของใหม่ การเติมสิ่งต่างๆเหล่านี้ อาจจะส่งผลต่อการลดคุณประโยชน์ของชาที่ควรได้รับอย่างเต็มที่ลงไปบ้าง แต่เมนูเหล่านี้เหมาะกับการเสิร์ฟในคาเฟ่ที่บรรยากาศดีๆ ให้ลูกค้าได้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการทำงานได้เป็นอย่างดี เพราะของอร่อยๆย่อมทำให้คนยิ้มได้ มาลองดูกันมานอกจากชาเขียวผสมนมที่เป็นมัทฉะลาเต้แล้ว เมื่อไปมิกซ์กับส่วนผสมอื่นๆอย่างอัญชัน สตอเบอรี่ กุหลาบ หรือสับปะรด จะต้องใช้ส่วนผสม หรือวิธีทำยังไงบ้าง Matcha Hot Chocolate ส่วนผสม : นมจืด 2 ถ้วย ไวท์ช็อคโกแต ½ ถ้วย ผงมัทฉะ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา มาชแมลโล่เบิร์นไฟเล็กน้อย Start :อุ่นนมมในไฟกลางให้พออุ่น ใส่ไวท์ช็อคโกแลตลงไปคนจนละลาย เติมผงมัทฉะ น้ำผึ้ง เกลือ ลงไปคนให้เข้ากัน เทใส่แก้วเสิร์ฟ หรือจะท็อปปิ้งด้วยมาร์ชแมลโล่เล็กน้อยตามชอบ ก็จะได้ชาร้อนๆพร้อมเสิร์ฟ…

รวมเทคนิคการถ่ายชวนลูกค้าเข้าร้าน
|

รวมเทคนิคการถ่ายชวนลูกค้าเข้าร้าน

ยุคโซเชียลแบบนี้ภาพที่เราใช้โพสต์ลงโซเชียลของร้าน ส่งผลต่อลูกค้าอย่างมาก ยิ่งภาพสวย ดูแล้วน่าทาน ยิ่งทำให้ลูกค้าอยากเข้ามาลองมากขึ้น มาดูเทคนิคการถ่ายภาพที่ใครเห็นแล้วก็อยากเข้าร้าน โดยต้องคำนึงไว้เวลาถ่ายว่า ถ่ายอย่างไรให้เพื่อนหิว ทำได้โดยการเข้าไปใกล้ๆ แล้วดูว่าในจานนี้มีสิ่งใดที่น่าจะยั่วน้ำลายได้ดีที่สุด ซูมถ่ายโดยให้สิ่งสิ่งนั้นเด่นที่สุดไปเลย 1. เน้นใช้สีโทนอุ่นในการถ่าย  ลดแสงสว่างของภาพลงหน่อย แต่อย่าลดมากเกินไปจะทำให้อาหารดูหมอง ไม่เห็นรายละเอียดของสิ่งที่กำลังถ่าย ถ้าจะให้ดีให้ใช้แสงธรรมชาติจะดีที่สุด พยายามเลี่ยงการใช้แฟลชของมือถือที่ใช้ถ่ายภาพ เนื่องจากจะทำให้เกิดเงา และทำให้อาหารดูแบน ไม่มีมิติ หากแสงไม่พอจริงๆ ควรใช้มือถือเครื่องอื่นส่องไฟมาในระยะห่างๆ จะดีกว่า  และให้ความสำคัญกับเงาจกแสงธรรมชาติ เพราะจะทำให้ภาพเูสมจริง น่าค้นหามากขึ้น 2.ถ่ายด้วยมุมที่เรานั่งทานอาหาร และมี Action กับอาหารบ้างเป็นการช่วยเพิ่มชีวิตชีวาและเรื่องราวให้กับภาพถ่าย การจับภาพช่วงเวลาต่างๆ เช่น ขณะกำลังเทนมลงในแก้วชา ขณะที่กำลังจะยกชาขึ้นมาดื่ม เห็นมือ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายบ้าง จะทำให้ภาพดูมีมิติมากขึ้น 3.ทำขนาดภาพเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นขนาดอัตราส่วน 1:1 หรือ Square เป็นที่นิยมค่อนข้างมาก เพราะรูปขนาดนี้จะช่วยทำให้เราเห็นดีเทลของอาหารได้ชัดขึ้น เห็นได้ใกล้ขึ้น ก็จะดูน่าทานมากขึ้นไปด้วย 4.ลองเพิ่มองค์ประกอบอื่นๆเข้าไปในภาพ ภาพอาหารแบบที่ใส่ในจานหรือถ้วยแบบเดิมๆอาจจะดูน่าเบื่อเกินไปสำหรับบางคน ลองวางของตกแต่งอื่นๆที่แปลกตาไว้ข้างๆจาน อาจจะเป็นของที่เกี่ยวข้องกันอย่างฉะเซน กาชา ในขณะชงชา หรือ ต้นไม้  ผ้าสวยๆสักผืน…

การทำไส้ขนมจากผงชาเขียวมัทฉะ
|

การทำไส้ขนมจากผงชาเขียวมัทฉะ

เทคนิคในการดัดแปลงส่วนผสมและสูตรต่างๆให้เป็นรสชาติที่หลากหลาย เป็นสิ่งที่เจ้าของร้านขนมและร้านคาเฟ่ควรรู้ บางครั้งหลายคนไปเรียนทำขนมมา แต่พอต้องการดัดแปลงขนมที่เรียนมาเป็นรสชาติที่ต้องการ กลับใส่ส่วนผสมไม่ถูก การทำครีมชาเขียวเป็นไส้ขนม บางเจ้าก็นิยมซื้อสำเร็จตามที่มีขายอยู่แล้วในท้องตลาดมาใช้เลยเพื่อความสะดวก แต่รสชาติความเข้มข้นรวมทั้งสีของชาเขียว อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้ Matchazuki เลยอยากจะมาแชร์ การทำไว้ครีมชาเขียวอย่างง่าย และถ้าใครเป็นคอชาโฮจิฉะ ก็สามารถเปลี่ยนผงชาเขียวตามสูตรเป็นผงชาโฮจิฉะได้ในปริมาณเท่าๆกัน แต่แนะนำให้การทำขนมใช้ผงชาเขียวจะอร่อย สีสวย และได้รสชาติที่ดีกว่าใช้ชาใบ หากใครอยากลองทำไส้คัสตาร์ดชาเขียวเอง ลองทำได้ง่ายๆเพียงแค่อุ่นนม 125 ml. ในหม้อ แค่พออุ่นๆ ไม่ถึงกับต้องเดือด ดูถ้ามีไอลอยขึ้นมาก็ปิดไฟเลย หลังจากนั้น ตีไข่แดง 1 ฟอง กับน้ำตาล 35 กรัม จนเป็นสีเหลืองอ่อน ร่อนแป้งเค้ก 13 กรัม กับผงชาเขียว 1 ช้อนชา 5 กรัมลงไปตีต่อ จากนั้นค่อยๆเทนมอุ่นลงไปผสมลงไปในหม้อ อุ่นด้วยไฟเบา คนด้วยไม้พายตลอดเวลา จนครีมเริ่มข้น ถ้าเห็นมีฟองขึ้นมาปุ๊บ อุ่นอีก 1 นาทีแล้วปิดไฟเลยค่ะ จากนั้นใส่เนยลงไป คนจนเนยละลายเข้ากัน หลังจากนั้นเทครีมใส่จานแบนๆ ปิดด้วยแรปใสแล้วเอาเข้าตู้เย็นแช่ไว้สัก 1 ชม.เนื้อครีมประเภทนี้จะมีความหนืดเหมือนเวลาเราทานซาลาเปาไส้ครีม…