หลากหลายไอเดีย กับโดนัทชาเขียว
|

หลากหลายไอเดีย กับโดนัทชาเขียว

จะเห็นว่าช่วงนี้เทรนด์โดนัทกำลังมา หลายๆร้านเริ่มทำโดนัทในรูปแบบต่างๆ ร้านขายเฉพาะโดนัทอย่างเดียวเปิดใหม่ก็เยอะขึ้น แม้กระทั่งแบรนด์ไก่ทอดชื่อดังก็มีการเอาเมนูโดนัทเข้ามามิกซ์กับเมนูที่ร้าน Matchazuki จึงพลาดไม่ได้ที่จะพาไปดูไอเดียดีๆจากร้านโดนัทน้องใหม่ที่เกียวโต อย่างร้าน Koe Donut และร้านโดนัทที่ขึ้นชื่อเรื่องความน่ารักอันดับต้นๆของญี่ปุ่นอย่างร้าน Floresta nature donuts Koe Donutsภายในร้านจะพบกับโดนัทหน้าตาไม่คุ้นเคย และรสชาติใหม่ๆที่ไม่มีในไทยหลายตัวที่น่าลอง เช่นโดนัทชาเขียว โรยตกแต่งด้วยถั่วพิซาชิโอ เป็นต้น แม้ว่าโดนัทในร้านทุกชิ้นจะทำจากส่วนผสมที่เรียบง่ายที่ให้รสชาติโดนัทแบบดั้งเดิมแต่ด้วยความสดใหม่ที่ผลิตโดนัทขึ้นเองทุกเช้าประกอบกับไอเดียการสร้างสรรค์โดนัทมากมาย ทำให้ร้านนี้ไม่ว่าใครผ่านไปมาที่เกียวโต ต้องแวะเข้าไปอย่างแน่นอน ภายในร้านยังมีโซน “Powder Factory” ที่สามารถชมวิธีการทำโดนัทได้สดๆ  ขณะที่นั่งรับประทานไปได้ด้วย ซึ่งความตั้งใจของแบรนด์จริงๆแล้ว คือ อยากจะสร้างความเชื่อมโยงกันระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่น แฟชั่น งานออกแบบที่ทันสมัย และอาหาร และส่งเสียงนี้ออกไปให้โลกได้รับรองในหลากหลายรูปแบบโดนัทที่ทำออกมาแต่ละตัวจึงมีความสวยงาม ไม่ซ้ำโดนัทแบบเดิมๆ อย่างเช่นการเอาถั่วเม็ดโตที่เป็นเอกลักษณ์ในการทำขนมวากาชิของญี่ปุ่นมาตกแต่งเป็นหน้าขนมโดนัท หรือที่เมืองเกียวโตขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยของชาเขียว ทางร้านเลยจัดเมนู Uji matcha tiramisu Donut melt ที่เปลี่ยนภาพลักษณ์การเสิร์ฟโดนัทที่คุ้นตาให้เป็นในรูปแบบเค้กนี่เอง ดูแผนที่ https://goo.gl/maps/cpa9MAamNvmZMzDb8 ดูไอเดียเพิ่มเติมได้ที่https://www.instagram.com/koe_donuts/?hl=en อีกร้านที่หลายคนคุ้นชื่ออยู่แล้วอย่างFloresta nature donutsในย่าน Koenji โตเกียว โดนัท ร้านนี้ใช้แป้ง  organic เนื้อโดนัทออกจะหยาบตามสไตล์แป้ง wholewheat ทำออกมาหลายรูปทรง และมีโดนัทที่ทำเป็นรูปสัตว์น่ารักๆมากมายที่ใช้ส่วนผสมของเกลซรสชาติต่างๆทั้งชาเขียว…

ต่อยอดเมนูจากไอเดียจากร้านสุดครีเอทีฟ
|

ต่อยอดเมนูจากไอเดียจากร้านสุดครีเอทีฟ

เมืองอูจิ เมืองขึ้นชื่อเรื่องชาเขียว ที่หลายคนคงเคยได้ยินว่าทั้งเมืองจะมีแต่ร้านขายขนม เครื่องดื่ม ที่ทำจากชาเขียว แค่คิด ก็ได้กลิ่นชาหอมๆตลอดเส้นทางการไปเยือนเมืองนี้แล้ว นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย และเต็มไปด้วยไอเดียในการทำขนมหวานเป็นรสชาติชาเขียวแล้ว ที่น่าสนใจกว่านั้นคือแต่ละร้านมีหลากหลายไอเดียที่ผู้ประกอบการร้านอาหาร คาเฟ่ชาเขียวของไทยน่าเอามาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มจุดขายให้ที่ร้าน และยังเป็นการใช้วัตถุดิบผงชาเขียวที่มีอยู่แล้วในร้านให้เกิดมากที่สุดด้วย ร้านแรกที่จะพาไปรู้จัก คือ ร้าน そば処 ながの( Sobadokoro Nagano )ร้านนี้เขาทำโซบะชาเขียว ขั้นแรกให้ลองชิมเส้นโซบะแบบยังไม่จิ้มกับซอสก่อน เราจะรู้สึกถึงความหอมของชาเขียวที่ผสมอยู่ในเส้นแบบเต็มๆคำ พอจิ้มซอสแล้วก็จะได้รสชาติหวานเล็กน้อย ส่วนอินาริซูชิ ก็เป็นแบบพิเศษเพราะด้านในไม่ใช่ข้าวแต่เป็นเส้นโซบะแบบธรรมดาผสมกับโซบะชาเขียวเช่นกัน ดูแผนที่ได้ที่https://goo.gl/maps/TdDzEQUNB4CE8vzz5 ร้านต่อไปที่จะพาไปรู้จักคือร้านMatcha Republicที่ขายเครื่องดื่มชาเขียวแบบบรรจุลงขวดหมึกเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร มีทั้งแบบผสมไข่มุก แบบผสมซากุระ ที่บรรจุลงขวดให้เห็นเป็น Layer ที่สวยงาม จะซื้อทานเองหรือซื้อเป็นของฝากก็เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร ลืมหน้าตามัทฉะลาเต้แบบปกติกันไปได้เลย ดูแผนที่ ได้ที่ https://goo.gl/maps/UB6RqZceBngnw3XZ9 อีกร้านที่หน้าร้านเหมือนร้านขายเนื้อแสนธรรมดา แต่กลับมีโครเกต์ชาเขียวกลิ่นหอมชา มันหวานๆเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ยิ่งทอดใหม่ๆ ยิ่งอร่อย แถมหาทานได้ยาก ใครผ่านไปแถวนั้นอย่าลืมแวะไปลองที่ ร้าน Niku no Hariyoshi ดูแผนที่ได้ที่https://goo.gl/maps/zx8MdGeTdBreQbpr7 อีกร้านหนึ่งที่น่าสนใจคือ ร้าน Tako Q (蛸Q)…

รวมกันแล้วรุ่ง ด้วย Marketing Collaboration
|

รวมกันแล้วรุ่ง ด้วย Marketing Collaboration

จะเห็นว่าช่วง 2-3 ปีมานี้ ธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ เบเกอรี่ และเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งที่เป็น SME ร้านมีแฟรนไชส์ หรือแม้กระทั่งใครหลายคนที่อาศัยช่วงเวลาว่างอยู่ที่บ้าน เข้าครัว จับโน่นผสมนี่ออกมาทำขายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าไหนๆ ก็คู่แข่งเต็มไปหมด โดยเฉพาะร้านสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นขนม ชา หรือร้านอาหารก็ตาม ด้วยจำนวนร้านที่เพิ่มขึ้นมาก แต่จำนวนผู้บริโภคมีเท่าเดิม คงหนีไม่ได้ กับการที่ยอดซื้อของบางร้านที่ไม่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากพอ จะลดลงอย่างแน่นอน การ Marketing Collaboration  หรือการจับคู่แบรนด์เพื่อทำโปรเจกต์ร่วมกัน กลยุทธ์นี้เป็นการผสมผสานจุดแข็งของแต่ละฝ่ายเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความแปลกใหม่ และขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น อย่างไรก็ตามการทำ Marketing Collaboration ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทุกเคสไป และมือใหม่ที่ไม่ถนัดการตลาดมากนัก อาจจะจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าต้องเริ่มทำจากอะไร เทคนิคการทำ Marketing Collaboration เริ่มจาก 1.กำหนดเป้าหมายให้ชัดต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าทำเพื่ออยากได้กลุ่มลูกค้าแบบไหนเพิ่มขึ้น อยากได้ชื่อเสียงจากอีกแบรนด์ในด้านไหนในการทำกิจกรรมทางการตลาดร่วมกัน อย่างเช่น “KitKat  X Krispy Kreme” ช็อคโกแลตคิทแคทที่หลายคนรู้จัก จับมือกับโดนัทยอดฮิต เพื่อออกสินค้าใหม่ที่เป็น Limited Edition แม้จะเป็นธุรกิจขนมเหมือนกัน แต่การจับมือของสองแบรนด์นี้…

ออกแบบเมนูอย่างไรให้ปังดึงดูดลูกค้า!!!
|

ออกแบบเมนูอย่างไรให้ปังดึงดูดลูกค้า!!!

เคยเจอปัญหานี้ที่ร้านกันมั้ย ??? คิดเมนูออกมาได้รสชาติดี ราคาไม่แพงแล้ว แถมทำเลร้านก็ดี แต่ทำไมลูกค้ายังไม่เข้าร้าน มีบริการส่งดิลิเวอรี่ แต่ลูกค้าก็ยังไม่กดสั่งซื้อ เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี นำเข้าจากต้นกำเนิด แต่ยอดขายก็ไม่ขึ้น ส่วนนึงที่หลายคนอาจลืมนึกถึงไปคือ ใบเมนูของที่ร้าน หรือรูปภาพที่เราใช้ในการทำเมนูหรือโพสต์ลงโซเชียลนั้นเอง ที่เป็นเหมือนหน้าต่างบานแรกของทุกร้าน ส่งผลต่อการเลือกซื้อของลูกค้า มาดูกันว่า ดีไซน์เล่มเมนูแบบไหนที่ช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น 1. คำที่ใช้เขียนในใบเมนูต้องน่าตื่นตาตื่นใจเช่น “Handcrafted” “Recommend” “New Arrival” “Signature Menu” แต่อย่าใส่มากเกินไป เพราะลูกค้าอาจจะสับสนในการตัดสินใจเลือกสั่งได้ อย่างภาพนี้ที่ถ้าดูเผินๆหลายคนอาจจะไม่สนใจ แต่ถ้าดูดีๆแล้วเห็นคำว่า NEW ในภาพ จะเกิดความสะดุดตา อยากซื้อขึ้นมาในทันใด 2. เล่าเรื่องราวของเมนูนั้น อธิบายรสชาติของขนมว่ามีส่วนผสมของไส้อะไรบ้าง หรือ อธิบายวัตถุดิบเล็กน้อย เมนูไหนที่ใช้วัตถุดิบพรี่เมี่ยม อย่างเช่น ผงชาเขียวนำเข้าจากอูจิเกียวโต ชาชั้นดีของญี่ปุ่น คำเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจ เพราะได้รู้ถึงที่มาของวัตถุดิบที่รสเลิศจึงมีส่วนช่วยให้อยากสั่งอาหารได้มากเลยทีเดียว นอกจากอธิบายด้วยข้อความแล้ว สามาถอธิบายด้วยภาพได้เช่นกัน อย่างเช่น การมีพร็อพตกแต่งข้างๆเป็นฉะเซ็น ถ้วยชงชาญี่ปุ่น แสดงถึงที่มาของชาเขียวที่อยู่ในทาร์ตนี้ว่าเป็นชาเขียวของญี่ปุ่น และมีส่วนผสมของ ถั่วแดง 3. สีสื่อความหมายเช่น…

น้ำแข็งแบบไหนเหมาะกับการทำเครื่องดื่มมากที่สุด
|

น้ำแข็งแบบไหนเหมาะกับการทำเครื่องดื่มมากที่สุด

เคยเป็นมั้ยที่ชงเครื่องดื่มออกมาดื่มเพียวๆอร่อยมาก แต่พอเทน้ำแข็งลงไป รสชาติกลับไม่เข้มข้นเหมือนเดิม แม้จะใช้วิธีในการคำนวณแบบง่ายๆที่หลายร้านใช้กันอย่างน้ำแข็งเต็มแก้ว 16 oz จะต้องใส่เครื่องดื่มที่ผสมส่วนผสมตามสูตรแล้วปริมาณ 6 oz หรือ 180 ml ถึงจะได้เครื่องดื่ม และ น้ำแข็ง ที่เต็มแก้วขนาด 16oz พอดิบพอดี แต่ก็กลับเจอปัญหาอีกที่ บางครั้งแค่เปลี่ยนแบบน้ำแข็งที่ใช้ในการชงเครื่องดื่มรสชาติก็เปลี่ยน เพราะหลายคนคิดไม่ถึงว่าน้ำแข็งแต่ละรูปทรงก็ส่งผลต่อรสชาติของเครื่องดื่มได้อย่างไม่น่าเชื่อ น้ำแข็ง วัตถุดิบธรรมดาที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เอาใจใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆแบบนี้ จะทำให้ร้านคุณมีเอกลักษณ์ และทำให้ลูกค้าประทับใจได้มากขึ้นได้ น้ำแข็งหลอดที่มีรูข้างในทำให้มีผิวสัมผัสเยอะ ก้อนใสไม่มีตะกอน หลายร้านมักซื้อเครื่องทำน้ำแข็งแบบนี้ไว้ที่ร้าน เพราะข้อดี คือ เย็นนานกว่า 3-4 ชม ขึ้นไป หลายๆร้านให้ความนิยมในการใช้ แต่ให้ความเย็นช้ากว่าเล็กน้อย น้ำแข็งสี่เหลี่ยมน้ำแข็งยอดนิยม มีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีคุณสมบัติการละลายช้ากว่าน้ำแข็งประเภทอื่นๆ เนื่องจากมีความหนาแน่นสูง สามารถรักษาอุณหภูมิความเย็นไว้ได้นาน แม้จะอยู่ในภาชนะขนาดใหญ่ก็อยู่ได้หลายชั่วโมง และเป็นน้ำแข็งที่มีความสวยงาม ทำให้เครื่องดื่มดู สวยงามน่ารับประทานมากขึ้น เหมาะสำหรับเครื่องดื่มที่ไม่ต้องการให้น้ำแข็งทำลายรสชาติของเครื่องดื่ม เช่น ค็อกเทล, กาแฟเย็น, น้ำหวานชงดื่มชนิดต่างๆ น้ำแข็งเกล็ดกรอบเป็นรูปทรงที่เรามักเห็นบ่อยๆ ในเซเว่น อีเลฟเว่น มีขนาดเล็ก ไม่แข็งมาก…

เทคนิคตั้งราคาขายให้ลูกค้าเข้าร้านง่ายขึ้น
|

เทคนิคตั้งราคาขายให้ลูกค้าเข้าร้านง่ายขึ้น

ร้านชาหลายร้านที่ใช้ผงชานำเข้าจากญี่ปุ่น หรือใช้เกรดพรี่เมี่ยมในการทำเมนูเครื่องดื่มและขนมในร้าน อาจจะเกิดปัญหาที่ว่า ต้นทุนสูง ต้องตั้งราคาขายยังไงให้ไม่รู้สึกแพงจนเกินไปสำหรับลูกค้า และไม่ทำให้ร้านขาดทุนด้วย 5 วิธีง่ายๆช่วยให้ลูกค้าเข้าร้านได้มากขึ้น 1. ขายเป็นเซต ขายง่ายกว่า นอกจากจะได้ความคุ้มค่าแล้ว ยังช่วยกระตุ้นความต้องการให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เช่น ปกติขายแยกเมนูข้าว แยกของหวาน แต่เอามาจับเซ็ต โดยทำให้ราคาของสองอย่างเมื่อรวมกันแล้วถูกกว่าราคาที่ซื้อแยกกัน ลูกค้าจะรู้สึกได้ทานอาหารในราคาถูก ถึง 2 เมนู คุ้มค่า และทำให้อาหารในร้านขายออกได้เร็วขึ้นอีกด้วย ลดเวลาในการตัดสินใจเลือกเมนูของลูกค้า บางร้านอาจจะจัดเซตเมนูที่ราคา สูง กลาง ต่ำ เพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่ามี Option และเห็นง่ายขึ้นว่าชุดไหนคุ้มค่าที่ควรสั่ง 2. ตั้งราคาให้โดดเด่นจากร้านอื่น เพื่อดึงดูดใจลูกค้าแล้ว ยังเป็นการกำหนด position ร้านอาหารของคุณให้ต่างจากคู่แข่ง หลักๆ มี 3 รูปแบบ คือ ตั้งราคาขายให้น้อยกว่าคู่แข่ง เป็นวิธีที่ผู้ประกอบการหลายคนคิดว่าจะดึงลูกค้าเข้ามาที่ร้านได้ง่าย แต่การจะตั้งราคาให้ถูกกว่าคู่แข่งนั้น ต้องไม่ลืมที่จะคำนวนต้นทุนด้วย แต่ถ้าเป็นร้านที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อน้อย ลูกค้าใช้เกณฑ์ราคาในการตัดสินใจซื้อ และร้านเน้นปริมาณการขายเป็นหลัก ก็เป็นวิธีที่ดีทีเดียว ตั้งราคาขายให้สูงกว่าคู่แข่งโดยเฉพาะร้านที่มีลูกค้าที่ต้องการคุณภาพ บริการ ที่ได้มาตรฐาน…

พิชิตใจลูกค้าด้วย Emotional Value
|

พิชิตใจลูกค้าด้วย Emotional Value

ธุรกิจร้านอาหารทุกวันนี้ แต่ละร้านจะมีเอกลักษณ์ของร้านตัวเองที่ดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน บางร้านใช้วิธีจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม บางร้านใช้การจัดอีเว้นต์ เชิญ Influencer ดังๆเข้ามา แต่จริงๆแล้ว วิธีเหล่านี้เป็นเหมือนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะในบางครั้งที่จบช่วงโปรโมชั่น หรืออีเว้นต์นั้นๆไป ลูกค้าก็อาจจะหายไปเหมือนเดิมได้ เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นเพียงเท่านั้น วิธีการพิชิตใจลูกค้าที่ยั่งยืนจริงๆแล้ว ควรให้ความสำคัญสิ่งที่เรียกว่า Emotional Value (คุณค่าทางอารมณ์) เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการทำ Emotional Value ของแต่ละร้านย่อมมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป ว่าจะใช้ในเรื่องของการชูโรงเรื่องความพรีเมี่ยมของวัตถุดิบ หรือ การสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบของร้านนั้นๆเองให้มีเอกลักษณ์ แต่ถ้าใครไม่มีไอเดีย มาดูเทคนิคง่ายๆที่ทำให้ลูกค้าเลือกมาร้านของเรา แทนที่จะไปร้านอื่นๆบ้าง Emotion : Caring การดูแล ห่วงใย เอาใจใส่ ครอบครัวบางครอบครัวมักจะมีปัญหาเวลาไปทานข้าวด้วยกันที่บางคนชอบอย่าง อีกคนชอบอีกอย่าง ถ้าร้านนนั้นๆ มีเมนูที่หลากหลายเหมาะกับคนในครอบครัวทุกเพศทุกวัย ก็เป็นการเอาใจใส่ลูกค้าเล็กๆน้อยๆ ที่อาจจะทำให้ลูกค้าประทับใจได้โดยไม่รู้ตัว เช่น มีเมนูชาเขียวเลือกระดับความเข้มได้ คนที่ไม่ชอบชาเขียว ก็สามารถเลือกเลเวลเจือจาง ผู้ใหญ่สายเข้ม สามารถเลือกชาเขียวเข้มข้นมากๆ ทำให้ในครอบครัวเดียวกัน สามารถใช้เวลาด้วยกันได้ หรือเป็นเมนูที่วางขายธรรมดาอยู่แล้วตามปกติ แต่ตกแต่งหน้าตาให้แตกต่างออกไปตามเทศกาลพิเศษ เช่นทาร์ตชาเขียว…

เสิร์ฟชาเขียวยังไงให้เหมือนไปทานที่ญี่ปุ่น
|

เสิร์ฟชาเขียวยังไงให้เหมือนไปทานที่ญี่ปุ่น

ชาเขียว กลายเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตไปแล้วสำหรับคนไทย โดยเฉพาะในหมู่ของคนที่ชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งในหลายๆร้านก็จะมีการนำผงชาเขียวปชงเป็นเครื่องดื่ม หรือเอาไปเป็นส่วนผสมของขนมสไตล์ตะวันตก อย่างเค้ก พาย ทาร์ต หรือขนมปัง แต่รากฐานจริงๆของการดื่มชาเขียวร้อนนั้น มักจะเสิร์ฟคู่กับขนมวากาชิขนมชิ้นเล็กพอดีคำ ที่ถูกตกแต่งอย่างประณีต ในพิธีชงชา ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่น วากาชิจึงเป็นจึงเป็นอีกไอเดียที่เจ้าของคาเฟ่ หรือคนที่อยากมีร้านเป็นของตัวเอง สามารถหยิบจับไอเดียไปต่อยอดได้ เพราะเป็นขนมที่ยังไม่แพร่หลายนักในไทย แต่ไม่ว่าใครที่ไปญี่ปุ่น ก็ต้องหาทานกันทุกครั้ง จึงเป็นไอเดียที่น่าสนใจมากสำหรับเจ้าของคาเฟ่ หรือผู้ที่สนใจเปิดคาเฟ่ในการสร้างเอกลักษณ์ให้กับเมนูในร้าน ที่มา http://masoupedujour.tumblr.com/post/3928153619/clover-by-green-piglet พูดถึงวากาชิ (和菓子/ Wagashi) หรือขนมหวานญี่ปุ่น หลายคนอาจจะยังนึกไม่ออกว่า คืออะไร?? วากาชิ ดั้งเดิมแล้วเป็นขนมหวานแบบแห้งที่ทำด้วยน้ำตาล ในสมัยนั้นน้ำตาลเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก ถูกจำกัดให้ชนชั้นสูงและผู้ผลิตขนมหวานที่ถูกเลือกเท่านั้น ขนมหวานตามฤดูกาลจึงเริ่มถูกคิดค้นขึ้นและนำไปใช้ประกอบพิธีชงชาในยุคนี้เอง ขนมวากาชิแบบแห้ง หรือที่เรียกว่าฮิงะชิ ที่มาhttps://www.flickr.com/photos/lotus-aki/15441310123/ ต่อมาได้มีการดัดแปลง ใช้ถั่ว น้ำตาล แป้งข้าวต่างๆ และแป้งชนิดอื่นๆ เป็นส่วนผสมหลัก และมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะและรสชาติไปตามฤดูกาล เช่น ในฤดูหนาว จะมีวากาชิแบบนึ่งทานอุ่นๆ ที่คล้ายกับซาลาเปา ทำจากแป้งผสมกับน้ำตาล สอดไส้ถั่วแดงหวาน เรียกว่ามันจู และยังมีขนมถั่วแดงต้มร้อนๆ ที่นิยมทานกันในช่วงที่อากาศหนาวอีกด้วย ขนมมันจู ที่มา…

5 เทคนิคการเสิร์ฟเมนูชาเขียวให้ดูญี่ปุ่นมากขึ้น
| |

5 เทคนิคการเสิร์ฟเมนูชาเขียวให้ดูญี่ปุ่นมากขึ้น

ช่วงนี้ไปร้านไหนก็ต้องเจอกับเมนูชาเขียว ไม่ว่าจะเครื่องดื่ม หรือ ขนม อาจจะเป็นเทรนด์ญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงเลยก็ว่าได้ ทำให้ลูกค้าหลายคนอาจจะรู้สึกได้ว่าไปร้านไหน ก็เหมือนกัน จนตัดสินใจไปในร้านที่ใกล้และสะดวกกว่าแทน ส่งผลต่อยอดขายที่อาจตกลงได้ วิธีสร้างจุดต่างให้กับเมนูในร้าน สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคงเป็นโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม ซึ่งเป็นวิธีการเพิ่มยอดขายในระยะสั้นเท่านั้น อีกวิธีที่จะช่วยสร้างจุดเด่นของร้าน ให้ต่างจากร้านอื่น คือการเพิ่มเอกลักษณ์ ที่ไม่เหมือนใครให้กับสินค้า ยิ่งถ้าเป็นร้านชาด้วยแล้ว หลายคนต้องนึกถึงร้านคาเฟ่เก๋ๆในญี่ปุ่นแน่นอน มาดู5  เทคนิคการเสิร์ฟเมนูชาเขียวให้ดูญี่ปุ่นมากขึ้นง่ายๆ สร้างความครีเอทให้ลูกค้าได้เข้ามาแชะ แชร์ เหมือนได้ไปคาเฟ่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ เพิ่มวัตถุดิบความเป็นญี่ปุ่น หลากหลายเมนูที่ญี่ปุ่นมักมีส่วนประกอบของ ถั่วแดง เพราะถั่วแดงเป็นพืชที่เติบโตมาพร้อมกับชาวญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยสภาพภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ถั่วแดงเจริญงอกงาม นำมาเป็นส่วนผสมของขนมได้ตลอดทั้งปี จึงเป็นวัตถุดิบหลักที่ควรเอามาใช้เป็นส่วนหนึ่งของเมนูที่ร้าน เช่น จากมูสชาเขียว เพิ่มถั่วแดงเข้าไปเป็นส่วนประกอบด้วยจะยิ่งน่าทานมากขึ้น หรือชาเขียวลาเต้ธรรมดา เพียงแค่ใส่ถั่วแดงเข้าไป ยิ่งเพิ่มความน่าทานให้มากกว่าปกติอีก มูสชาเขียวถั่วแดง    มูสชาเขียวถั่วแดง     มัทฉะถั่วแดงเฟรปเป้ ที่มา http://mykitchenoflove.wordpress.com/2012/09/01/our-anniversary-cake-matcha-and-red-bean-mousse/ http://www.facebook.com/mofcafe ดอกซากุระ ที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องนึกถึงญี่ปุ่น ช่วงฤดูใบไม้ผลิ หลายๆที่นิยมนำดอกซากุระหมักเกลือมาเป็นส่วนผสมหนึ่งในขนม ซึ่งในไทยถือว่าเป็นวัตถุดิบที่หายาก เหมาะกับการนำมาต่อยอดเมนูที่ร้าน เช่น มัทฉะลาเต้ร้อนๆท้อปปิ้งด้วยซากุระ ให้กลิ่นอายฤดูใบไม้ผลิเบาๆ มัฟฟินธรรมดา เพิ่มความน่าทานด้วยการท้อปปิ้งซากุระครีมสด ซากุระมัทฉะลาเต้…

เรื่องเล็กๆ ที่ทำให้รสชาติชาไม่คงที่
|

เรื่องเล็กๆ ที่ทำให้รสชาติชาไม่คงที่

ไปร้านขายชากาแฟทีไร ผมก็อดไม่ได้ที่จะสั่งมัทฉะนม เดินผ่านทีไรเป็นต้องได้มาสักแก้ว พอกินบ่อยเข้าก็เริ่มสังเกตว่ากลิ่นรสชามันขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวหอมบ้าง เดี๋ยวฝาดบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ชาคนละตัวเสียทีเดียว คุณคิดว่ามันเกิดจากอะไร? แน่นอนว่าพนักงานที่ชงก็มีส่วน ถ้าไม่วัดให้ดี ประมาณความร้อนให้แม่น รสชาติก็คงไม่เหมือนกัน ทำไมล่ะ? มัทฉะอยู่ตรงห้องไหน? เราไปหามัทฉะกันก่อน มัทฉะของคุณอยู่ที่ไหนกันบ้างครับ? ห้องนอนสุดฮิตที่หนึ่งอาจเป็นห้องครัว จะทำอาหารก็ดี ชงชาก็สะดวกใช่ไหมครับ? แท้จริงแล้วห้องนี้เป็นห้องต้องห้ามไม่ว่าสำหรับชาใดๆ เลยทีเดียว เพราะนอกจากห้องครัวจะร้อนจากเตาไฟแล้ว ยังมีทั้งกลิ่น ทั้งควัน ที่กลิ่นอาจมาติดชาได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังมีความชื้นสูงอีกด้วย ความร้อนกับความชื้นทำให้อายุสั้นลง สีซีด ชาจะเสื่อมคุณภาพอย่างรวดเร็วในห้องครัว บางคนที่ทำร้านขายเครื่องดื่มอาจวางไว้ตรงเคาน์เตอร์เลย หยิบง่ายสะดวกดีใช่ไหมครับ? หากใช้มัทฉะได้หมดในเวลาสั้นๆ การเอาไว้ตรงนี้ก็ไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้ามีมัทฉะค้างสต๊อกมากแนะนำให้เก็บในตู้เย็นดีกว่าครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเคาน์เตอร์นั้นอยู่ใกล้ประตูหรือหน้าต่าง ทั้งฝนตก แดดออก ล้วนกระทบทั้งสิ้น พอถึงตรงนี้ตู้เย็นคงเป็นคำตอบของคนหลายคน บางคนถึงกับไว้ช่องแข็งเลย เป็นความจริงที่ตู้เย็นช่วยยืดอายุมัทฉะได้นานกว่าอยู่ข้างนอกมาก แต่การใช้ตู้เย็นมีข้อควรระวังอยู่ 2 อย่าง 1. ตู้เย็นที่เหม็นจนกลิ่นติดชาไปด้วย 2. ความชื้นที่มาเกาะตอนเอาออกจากตู้เย็น ทำให้เสื่อมคุณภาพเร็วยิ่งกว่าวางไว้ข้างนอกเสียอีก วิธีแก้ไขคือ ใส่ถุงซิปล็อกอีกทีให้แน่นหนา และวางทิ้งไว้ให้หายเย็นก่อนจะนำมาใช้ สักครึ่งวันคงหายห่วง เอาอะไรเก็บมัทฉะ?…