Matcha Chocolate-Dipped Strawberries

สวัสดีครับ หลังจากวันก่อนลงเมนู “Matcha Chocolate-Dipped Strawberries” มีเพื่อนๆให้ความสนใจเยอะเลย วันนี้เลยจะขอเอาวิธีทำมาฝากกันกับเมนูน่ารักๆที่ใครๆก็ทำได้ เมนูนี้มีชื่อภาษาไทยว่า มัทฉะช็อคโกแลตเคลือบสตรอว์เบอร์รี่ เป็นขนมง่ายๆที่อยากแนะนำกันครับ ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยดีกว่าครับ ^^

2

ส่วนผสมสำคัญ

  1. สตรอว์เบอร์รี่ 8-10 ลูก (แช่ในช่องแช่แข็งอย่างน้อย 3 ชั่วโมง)
  2. ไวท์ช็อคโกแล็ต 200 กรัม
  3. ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Medium 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผสมไวท์ช็อคโกแลต)
  4. ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Medium 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับโรยหน้าขนม)
  5. เนยสด 5 กรัม

ขั้นตอนการทำ

  1. นำไวท์ช็อคโกแลตใส่ชามที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ กดไปที่ 30 วินาที เมื่อนำออกมาจะสังเกตว่า ช็อคโกแลตบางส่วนเริ่มละลาย คนให้ความร้อนกระจายอย่างทั่วถึง แล้วนำเข้าไมโครเวฟต่ออีก 30 วินาที นำออกมาคนให้เข้ากันอีกครั้ง3
  2. นำเนยสด ใส่ลงไปในไวท์ช็อคโกแลตที่ละลายเรียบร้อยแล้ว คนให้เข้ากัน เมื่อเนยละลายเข้ากับช็อคโกแลตแล้ว ใส่ผงชาเขียวลงไป แล้วคนให้เข้ากันอีกครั้ง4 5
  3. นำสตรอว์เบอร์รี่ที่เราแช่ไว้ในช่องแข็งมาเด็ดขั้วทิ้งไป แล้วนำไม้เสียบลูกชิ้นเสียบเข้าไปแทนขั้ว โดยไม่ต้องลึกมาก แล้วนำไปจุ่มกับช็อคโกแลตมัทฉะที่ทำไว้ (หมายเหตุ การนำสตรอว์เบอร์รี่ไปแช่ในช่องแข็งจะทำให้ชุบง่ายขึ้น ช็อคโกแลตมัทฉะจะแข็งตัวได้เร็วขึ้น)6
  4. พอช็อคโกแลตเริ่มแข็งตัว นำผงชาเขียวที่เตรียมไว้ ใส่ตะแกรง ร่อนให้ผงชาเขียวเคลือบสตรอว์เบอร์รี่ที่เราชุบไว้แล้วอีกครั้ง เพื่อเพิ่มความเข้มข้นรสชาเขียวและทำให้ดูสวยงามน่าทานมากยิ่งขึ้นครับ7
  5. จัดใส่จานสวยๆ จะโรยผงมัทฉะเพิ่มในจานให้ดูสวยงามน่ารับประทาน หารใครจะหั่นให้เห็นความสวยงามของสตรอว์เบอร์รี่ แนะนำว่า ให้นำมีดไปชุบน้ำร้อนเช็ดให้แห้งก่อนแล้วค่อยหั่น ช็อคโกแลตมัทฉะจะไม่แตก หรือหากใครจะนำไปเป็นของขวัญ แนะนำว่า พอใส่กล่องผูกโบว์สวยๆแล้ว ให้นำน้ำแข็งแห้งใส่ไปในกล่องเล็กๆอีกครั้ง เพราะช็อคโกแลตควรอยู่ในที่เย็นๆจะละลายได้ยากขึ้น8

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
マッチャラブユー

Green Tea Matcha Chiffon Cake ชิฟฟ่อนเค้กชาเขียว

วิธีการทำเค้กชาเขียวชิฟฟอน^^ (Green Tea Matcha Chiffon Cake)

สูตร นี้ได้มาจากคุณ jumjee ใน Pantip ครับ โดยส่วนผสมและวิธีทำขอคงของต้นฉบับไว้เป็นส่วนใหญ่เลยนะครับ เพราะจะมีเปลี่ยนแค่ผงชาเขียวมัทฉะและมีการเติมผงชาเขียวมัทฉะเพิ่มในส่วน ครีมนิดหน่อยครับ ^^

ส่วนผสมสำคัญ (สำหรับเค้ก 2 ปอนด์)

เนื้อเค้ก

1. แป้งเค้ก 40 กรัม

2. น้ำตาลละเอียดสำหรับเบเกอรี่ 50 กรัม

3. ผงชาเขียวมัทฉะ (เกรด Medium) 2 ช้อนชา

5. เกลือ 1/4 ช้อนชา

4. กลิ่นวานิลลาผง 1/2 ช้อนชา

6. ไข่แดง(เบอร์2) 2 ฟอง

7. น้ำมันพืช (ในสูตรใช้น้ำมันถั่วเหลือง) 30 กรัม

8. นมสดรสจืด 50 กรัม

9. ไข่ขาว 2 ฟอง

10. น้ำตาลป่น 30 กรัม

11. น้ำมะนาว นิดหน่อย

ส่วนครีม

1. วิปปิ้งครีม 250 กรัม

2. น้ำตาลละเอียดสำหรับเบเกอรี่ 50 กรัม

3. ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Excellent 1.5 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

1. ใส่แป้งลงในชาม ตามด้วยน้ำตาล ผงชาเขียวมัทฉะ วานิลลาผง สุดท้ายคือเกลือ

2. ใช้ตะกร้อมือกวนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ไม่เป็นเม็ดจับตัวกัน พักไว้

3. ต่อมาทำส่วนไข่แดง เริ่มจากตอกไข่เย็นๆ ใส่ถ้วยหรือชามไว้ (ไข่ไก่สำคัญสำหรับเค้กชิฟฟอนมาก ไข่ไก่ควรจะสด) แยกไข่แดงไข่ขาว แล้วนำไข่ขาวไปใส่โถตีรอไว้ก่อน

4. นำถ้วยไข่แดงมาเติมน้ำมันแล้วตามด้วยนมสดรสจืด พักไว้

5. สำหรับส่วนสุดท้าย คือส่วนของไข่ขาวนั้น ให้เตรียม 3 อย่างนี้ไว้ คือไข่ขาว น้ำมะนาว และน้ำตาลป่น แยกกันไว้ก่อน แต่ต้องเตรียมให้พร้อมเพราะต้องรีบทำรีบอบไม่งั้นไข่ยุบ

6. วอร์มเตาอบที่ 180 องศาเซลเซียส

7. เมื่อทุกอย่างพร้อม เริ่มต้นด้วยการตีไข่ขาวด้วยสปีดสูงสุด จนเป็นฟองแฟ้บ

8. บีบมะนาวลงไป

9. จากนั้นค่อยๆ ใส่น้ำตาลป่นลงไปเรื่อยๆ ไม่ควรใส่พรวด เพราะอาจทำให้ฟองไข่ยุบได้

10. ตีจนให้ตั้งยอดแบบในรูป

11. ทำส่วนไข่แดง นำเอาส่วนไข่แดงมาเทรวมกับส่วนแป้ง บางท่านอาจจะทำเป็นหลุมไว้ตรงกลาง ก็ช่วยได้

12. กวนเร็วๆ แรงๆ และพอดีๆ เป็นคำที่ต้องท่องไว้สำหรับการกวนส่วนของไข่แดง (เค้กจะออกมานุ่มละลายในปาก หรือว่าเหนียวสากคอก็อยู่ที่ปริมาณการกวนครั้งนี้) กวนให้พอดีเข้ากัน ไม่เห็นส่วนแป้งขาวๆ ก็หยุดทันที

13. เอาส่วนของไข่ขาวมาโปะ จริงๆแล้วตามทฤษฏี ต้องเอาส่วนผสมแป้งและไข่แดงไปราด เพราะส่วนแป้งไข่แดงนั้นหนักกว่าส่วนไข่ขาว ถ้าเราเอาไว้ด้านล่างแบบนี้จะทำให้ผสมไม่ค่อยเข้ากันครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีทางแก้นะครับ พอใส่ลงไปแบบนี้แล้วก็ให้พลิกส่วนแป้งไข่แดงขึ้นมาราดด้านบนส่วนไข่ขาวนะ ครับ จะผสมได้ง่ายขึ้นมาก

14. ใช้พายยางตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน [*ตะล่อมคือการปาดพายยางลูบไล้ไปตามผิวของชามผสมเพื่อรูดเอาส่วนผสมที่ติด ขอบชาม (ซึ่งโดยมากมักเป็นส่วนผสมหนัก เช่นส่วนแป้งไข่แดง เป็นต้น) ให้ยกตัวขึ้นมา ไม่ติดขอบผิวชาม อันจะทำให้ผสมได้ไม่เข้ากัน เมื่อส่วนผสมหนักยกตัวขึ้นมาแล้วเพื่อไม่ให้มันกลับไปติดขอบชาม เราก็ฟลิบพายยางแหมะส่วนผสมหนักให้เข้าไปอยู่ตรงกลาง ทีนี้ก็ผสมได้ง่าย ซึ่งเรียกว่าตะล่อม]

15. เมื่อผสมเข้ากันแล้วหยุด การเข้ากันก็สังเกตว่าสีของส่วนผสมไม่มีริ้วๆ สีเข้มๆ (ในนี้เป็นสีเขียว) ก็แสดงว่าเข้ากันแล้ว เคาะพิมพ์ก่อนทำได้โดยวิธีการดังนี้ คือถือพิมพ์ให้สูงกว่าพื้นโต๊ะประมาณนี้แล้วปล่อยพิมพ์ให้ตกอิสระ ทำสักสองรอบเพื่อไล่ฟองอากาศในเค้กไม่ต้องกลัวยุบ จากนั้นเทใส่พิมพ์แล้วนำไปเข้าเตาได้เลย

16. อบนานประมาณ 30 นาที (** หมายเหตุ เค้กต้องสุก โดยให้ทำการเช็คสุกด้วยการเอานิ้วแตะหน้าเค้กครับ ถ้ายังยุบเห็นเป็นรอยค้างเมื่อเอานิ้วออกก็แสดงว่ายังไม่สุกครับ ให้อบต่อไปอีก 3-5 นาทีแล้วแตะใหม่ครับ ถ้าเริ่มไม่เห็นรอยยุบค้าง แสดงว่าสุกแล้ว ให้นำออกมาแล้วใช้เทคนิคเดียวกันกับก่อนอบ คือปล่อยให้ตกอิสระครับ ถ้าสุกแล้วยังไงก็ไม่ยุบครับรับรองได้”

17. พักไว้ให้เย็นในพิมพ์ หรือจะแซะออกมาก็ได้ ไม่ผิดกติกา อีกเทคนิคคือคว่ำไว้บนตะแกรงอันนี้เคยให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในนี้ใช้กัน ก็เป็นเทคนิคที่ดีเพราะจะทำให้เค้กไม่ยุบและเนื้อเค้กเบา

18. แล้วก็สไลด์เค้ก

19. ทีนี้เรามาทำส่วนของครีมกัน สูตรนี้จะนวลๆ ไม่หวานมาก ถ้าใส่น้ำตาลมากกว่านี้กลิ่นหอมของวิปครีมจะลดลงมากเลย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นำวิปปิ้งครีมไปแช่เย็นช่องฟรีส แต่อย่าแช่นานเพราะจะเสี่ยงต่อการแยกตัวของวิปครีมมาก จริงๆแล้วไม่แนะนำสำหรับมือใหม่เพราะอาจพลาดได้ง่าย แต่ถ้าพอเคยทำ แช่สัก 10-15 นาทีก็ยังใช้งานได้ และตีได้ง่าย

20. เสร็จแล้วก็เอามาตีด้วยสปีดสูง ค่อยๆ ใส่น้ำตาลป่นลงไป คือจริงๆแล้วตีไปได้แค่พอเริ่มๆ เป็นรอยตะกร้อที่วิปครีมก็ใส่ได้เลยหรือจะใส่ก่อนนิดหน่อยก็ไม่ว่ากัน แต่อย่าใส่ช้าเพราะน้ำตาลจะไม่ละลายได้

21. ได้ตั้งยอดแข็งหน่อยประมาณนี้ก็ใช้ได้ อย่าให้เหลวมากเพราะว่ามันจะไหลเยิ้มได้ แข็งหน่อยไม่เป็นไรเพราะเค้กเค้าเบาอยู่แล้ว แต่ก็อย่าตีให้มากเสียจนวิปครีมแยกตัว พอเห็นรอยหัวตะกร้อชัดเจนแล้วก็หยุดได้เลยต้องระวังตรงนี้ด้วย

22. พอเรียบร้อยแล้วจะเอาครีมไปแช่เย็นก่อนก็ได้ เพราะอาจจะร้อนแล้ว แช่ฟรีสได้ครับ ราวๆ 10 นาที ก็เอาเริ่มแต่งกันเลย ปาดให้ครีมหนาประมาณในรูป แปะชิ้นบน

23. ปาดครีมให้ทั่วเค้ก

24. ขั้นตอนสุดท้าย โรยผงชาเขียวเข้าไปที่หน้า โดยการร่อนด้วยตะแกรง

แค่นี้ก็เรียบร้อย ขอให้สนุกกับการทำนะครับ ^.^

matcha-cake2

Credit : http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/01/D6272478/D6272478.html

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
マッチャラブユー

Matcha Mousse Pie ชาเขียวมูสพาย

สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกเช่นเคย วันนี้ทางเพจ MATCHAZUKI ผงมัทฉะเกรดพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น ขอแนะนำอีกสูตรขนมง่ายๆที่ไม่ต้องมีเครื่องอบก็สามารถทำได้ นั่นก็คือ Matcha Mousse Pie หรือ ชาเขียวมูสพาย ขนมเนื้อเนียนนุ่ม ที่เข้มข้นถึงรสชาเขียว จะทำทานเองหรือจะเซอไพรซ์คนรักก็ดูดี ด้วยตัวขนมเนื้อนุ่มละลายในปากจึงเป็นขนมอีกอย่างที่ครองใจใครหลายๆคน เราไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยดีกว่าครับ ^^

5

ส่วนผสมสำคัญ (สูตรนี้ทำได้ประมาณ 3 ถ้วยนะครับ)
1. เวเฟอร์ช็อคโกแลตบดละเอียด 70 กรัม (เช่น โอรีโอปาดครีมออก)
2. เนยละลาย 40 กรัม
3. น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วยตวง (ถ้าชอบหวานเพิ่มได้ครับ)
4. ผงมัทฉะ Matchazuki เกรด Medium 3 ช้อนโต๊ะ
5. เจลาตินแบบแผ่น 2 แผ่น
6. ไข่แดง 4 ฟอง
7. นมสด 2/3 ถ้วยตวง
8. วิปปิ้งครีม 1 ถ้วยตวง

ขั้นตอนการทำ
1. นำเวเฟอร์ช็อคโกแลตที่บดละเอียดแล้วผสมกับเนยละลายให้เข้ากันจนดูเหมือนทรายเปียก แล้วตักใส่แก้วหรือภาชนะที่ต้องการ อัดให้แน่นเป็นฐานพาย แล้วแช่ในตู้เย็นเพื่อให้เช็ตตัว
2. ใช้ตระก้อมือตีไข่แดงจนขึ้นฟูและสีอ่อนลง แล้วพักไว้ก่อนครับ
3. นำเจลาตินแช่น้ำเย็นรอไว้ก่อน แล้วนำน้ำตาลทราย ผงชาเขียว และนมสดใส่หม้อคนผสมให้เข้ากัน แล้วนำไปตั้งไฟอ่อน คนเรื่อยๆ จนส่วนผสมละลายเข้ากันดี
4. เมื่อส่วนชาเขียวเริ่มเดือดเล็กน้อย นำเจลาตินที่แช่น้ำไว้จนนิ่ม บีบน้ำออก ใส่ลงในหม้อ คนให้ละลาย จากนั้นนำไข่ที่ตีไว้ ค่อยๆเทลงหม้อ แล้วคนตลอดเวลา เพื่อเป็นการพาสเจอร์ไรซ์ไข่ และป้องกันไข่สุกเป็นลิ่ม เนื้อชาเขียวจะข้นขึ้น รอให้เดือดเล็กน้อยอีกครั้ง ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น

4
5. นำวิปปิ้งครีม มาตีให้ขึ้นฟูจนตั้งยอดอ่อนๆ แล้วไปผสมกับส่วนชาเขียวที่เย็นแล้ว และคนให้เข้ากัน

3
6. เทส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้ว ลงในภาชนะที่ใส่ฐานพายเตรียมไว้ เกลี่ยให้เรียบ แล้วแช่ในตู้เย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมงเพื่อให้เนื้อมูสเซ็ตตัว

1
7. เมื่อเนื้อมูสเซ็ตตัวดีแล้ว โรยผงชาเขียวบริเวณหน้าขนมเพื่อเพิ่มความเข้มข้น และตกแต่งด้วยผลไม้ตามชอบ

Matcha Mousse Pie เป็นขนมที่ต้องใช้ความเย็นในการเซ็ตตัว หากยังไม่ทาน ไม่ควรนำออกจากตู้เย็นนะครับ

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
マッチャラブユー

Matcha Red Bean Brownie With Strawberry มัทฉะบราวนี่ถั่วแดง

Matcha Brownie ขนมอบยอดฮิตตลอดกาล เนื้อนุ่มหนึบ เข้มข้นรสมัฉะ สายหวานที่ชอบบราวนี่และชาเขียวต้องเลิฟ ใช้ส่วนผสมไม่เยอะ แถมวิธีทำก็ง่ายมากๆ ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มทำพร้อมๆกันเลยครับ

ส่วนผสมสำคัญ

MATCHAZUKI Excellent                          15  กรัม
ไวท์ช็อกโกแลต                                     100  กรัม
เนยเค็ม                                               70  กรัม
น้ำตาล                                                50  กรัม
ไข่                                                       2  ฟอง
วิปปิ้งครีม                                            45  กรัม
แป้งอเนกประสงค์                                   80  กรัม
เบกกิ้งโซดา                                         1/2   ช้อนชา
ถั่วแดงกวน                                          80  กรัม
อัลมอนด์ซีกคั่ว                                       40  กรัม
เดรี่วิปปิ้งครีม                                       200  กรัม
สตรอว์เบอร์รี่                                         60  กรัม
ซอสสตรอว์เบอร์รี่                                    40  กรัม

ขั้นตอนการทำ

– ละลายไวท์ช็อกโกแลตในอ่างผสมที่วางบนภาชนะที่มีน้ำร้อนอีกที
– ใส่ผงมัทฉะ เกรด Excellent ในไวท์ช็อกโกแลตที่ละลายแล้ว ผสมให้เนื้อเข้ากันเป็นสีเขียวเข้ม
– .ใส่เนยเค็ม น้ำตาลทราย ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ระหว่างตีทยอยใส่ไข่ทีละฟอง และค่อยๆตีให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันอีกครั้ง
– จากนั้นใส่วิปปิ้งครีม และตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน
– .เทแป้งอเนกลงที่ร่อน ตามด้วนเบกกิ้งโซดา ร่อนส่วนผสมทั้งหมดลงในเนื้อแป้งที่เตรียมไว้ให้เข้ากัน
– ผสมถั่วแดงกวนลงไป


– เทเนื้อแป้งที่เตรียมไว้ใส่ถาดพิมพ์ที่ปูด้วยกระดาษไขเรียบร้อยแล้ว ปาดให้เนื้อแป้งทั่วถาด
– โรยอัลมอนด์ ก่อนนำเข้าเตาอบ ตั้งอุณหภูมิที่ 170°C ประมาณ 25-30 นาที


– อบเสร็จ พักไว้ให้เย็น และนำเข้าตู้เย็นให้แป้งบราวนี่เซ็ตตัว 2-3 ชั่วโมง
– ตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีม ท็อปด้วยสตรอว์เบอร์รี่สดฝานเป็นแว่น จากนั้นโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งตามชอบ
พร้อมเสิร์ฟ!

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
マッチャラブユー

Hot Matcha Latte มัทฉะลาเต้ร้อน

วิธีการชงมัทฉะลาเต้ร้อน (Hot Matcha Latte)

อุปกรณ์ช่วยละลาย

วัตถุดิบ

1. ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Excellent 1 ช้อนชา (3 กรัม)

2. น้ำอุ่น 40 ml

3. นมสด 150 ml

4. น้ำเชื่อม 2 ช้อนชา

ขั้นตอนการชง

1. ละลายผงมัทฉะให้เข้ากับน้ำอุ่น โดยใช้ Chasen หรือเครื่องตีฟองนม

Tip: พยามใช้นำ้ไม่ต้องเยอะแค่พอละลาย เพื่อไม่ให้นำ้ไปเจือจางรสชาติมากเกินไปนะครับ

2. เติมน้ำเชื่อมตามความหวานที่ต้องการ

3. อุ่นนมสดในแก้วที่เตรียมไว้อีกใบ แล้วใช้เครื่องตีฟองนมจนนมสดขึ้นฟอง

4. เทนมสดลงไปผสมกับมัทฉะที่ละลายเอาไว้แล้ว

*** ถ้าไม่มีอุปกรณ์ช่วยละลายให้ลองใช้วิธีนี้ดูนะครับ

1.ใส่ผงชาเขียวมัทฉะกับน้ำตาลทรายลงไปในถ้วย
2. เอียงถ้วยแล้วใช้ช้อนบดส่วนผสมให้เกร็ดน้ำตาลไปบดผงชาเขียวมัทฉะ จนแตกตัวไม่จับเป็นก้อน
3. ค่อยๆเติมน้ำอุ่นลงไป เอียงถ้วยแล้วใช้ช้อนบดผงชาเขียวมัทฉะกับข้างถ้วย คนจนละลายหมด

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
マッチャラブユー

วิธีการชงชาเขียวแบบบาง Usucha

วิธีการชงชาเขียว

หมายเหตุ วิธีการตามนี้จะไม่ใช่วิธีการชงตามพิธีชงชาของญี่ปุ่น

อุปกรณ์ที่ต้องมี (ตามรูปด้านล่าง)

1. Matcha-chawan (抹茶碗) ถ้วยสำหรับชงชา

2. Chasen (茶筅) เป็นไม้ไผ่ใช้สำหรับบดผงชาเขียวไม่ให้จับตัวเป็นก้อน

3. Chashaku (茶杓) เป็นไม้ไผ่ที่ใช้สำหรับตักผงชาเขียว

SONY DSC

วัตถุดิบ

1. ผงมัทฉะ MATCHAZUKI เกรด Excellent ตักด้วย Chashaku 1 ช้อนครึ่ง (ประมาณ 1 ช้อนชา)

2. น้ำร้อนประมาณ 80C ปริมาตร 60 ml

ขั้นตอนการชง

1. ตักผงชามัทฉะใส่ในถ้วย

2. ค่อยๆเทน้ำร้อนตามลงไปบนผงมัทฉะ

3. ใช้ Chasen “ปัด” ให้ผงมัทฉะแตกตัวเข้ากับน้ำ โดยให้ทิศทางการปัดไปทางด้านหน้าสลับกับด้านหลัง จนไม่พบผงมัทฉะจับตัวเป็นก้อน (จะเห็นเป็นฟองสีเขียวละเอียดลอยอยู่ด้านบน)

4. เสิร์ฟในถ้วยชงชาได้เลย

วิธีการต้มน้ำให้ร้อนประมาณ 80C

1. ต้มน้ำจนเดือดที่อุณหภูมิ 100C

2. เทใส่ภาชนะ (เช่นถ้วยชา) ที่เตรียมไว้ อุณหภูมิน้ำจะลดลงมาประมาณ 10C

3. จากนั้นค่อยเทลงไปบนผงชามัทฉะตามขั้นตอนที่ 2 ก็จะได้น้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 80C พอดี

Tip: ผง มัทฉะนั้นจริงๆไม่ได้ละลายน้ำแต่จะแขวนลอยอยู่ในน้ำร้อน ดังนั้นเราจึงควรดื่มทันทีในระหว่างที่ผงมัทฉะยังแขวนลอยอยู่ก่อนที่จะตก ตะกอนลงไปด้านล่าง

 

———————————-

MATCHAZUKI – Crafted for matcha lover
“เพราะเราเลือกมัทฉะ อย่างคนที่รักมัทฉะ”⠀⠀
 
マッチャラブユー